รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

Are We in Inverted Taper Tantrum?and What's next?

เผยแพร่ 11/06/2563 14:41
อัพเดท 09/07/2566 17:32

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 ที่เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังฟื้นตัวจากวิกฤติซับไพรม์ได้อย่างเต็มที่ อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ เฉลี่ยประมาณ 7.5% ลดลงจากช่วงก่อนหน้าที่พุ่งไปแตะระดับสูงสุดที่ 10.2% GDP ยังขยายตัวได้ระดับเหนือ 2% ขึ้นไป อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) ยังอยู่ใกล้ๆ 1.5%

แต่แล้วสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม เมื่อคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มมีการพูดถึงการลดขนาดการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล หรือที่เรารู้จักกันดีในนามของ QE

ซึ่งข่าวคราวในครั้งนั้น ยังไม่ได้แม้แต่จะเป็นนโยบายอย่างทางการเสียด้วยซ้ำ หนำซ้ำปริมาณการเข้าซื้อยังอยู่ในระดับอัตราเร่งเท่าเดิมอย่างต่อเนื่อง เสมือนช่วงก่อนหน้า

แต่เพียงเท่านั้นก็มากพอที่จะทำให้ตลาด "กังวล" กันยกใหญ่ ส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำปรับตัวลงกว่า 11% ดัชนี MSCI World -4.5% MSCI Asia Ex. Japan -11% ภายในระยะเวลาเพียงไม่ถึง 2 เดือน

กราฟดัชนี MCSI ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

กราฟดัชนี MSCI

ส่วนของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เป็นต้นตอข่าวลือครั้งนั้นยังขึ่้นต่อได้อีกเกือบ 3 สัปดาห์ ก่อนทีจะปรับตัวลงในที่สุดตามทิศทางความกังวลของตลาดทั่วโลกเพียง 3-4% เท่านั้น ก่อนที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นในตลาดหุ้นแต่ความกังวลไปแสดงผลที่ตลาดตราสารหนี้แทน ด้วยการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไปจำนวนมาก ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ขยับขึ้นทั้งเส้น

ซึ่งตัวที่นักลงทุนอย่างเราๆ ดูบ่อยๆ คงเป็นอายุุ 10 ปี พุ่งขึ้นจาก 1.62% แตะระดับ 2.99% ในปีนั้น พุ่งขึ้นไปเกือย 2 เท่าในระยะเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งปี ย้ำอีกครั้งว่าเกิดขึ้นท่ามกลาง QE ของ Fed เสียด้วย

มาถึงวันนี้ เรากำลังอยู่ในภาวะตรงกันข้ามกับปี 2013 ที่กล่าวถึงหรือเปล่า? ลองมาไล่ดูกัน

เศรษฐกิจทั่วโลกแย่จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ถึงขั้นที่ธนาคารโลกออกมาคาดการณ์ว่าน่าจะแย่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลก อัตราการว่างานสหรัฐฯ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ GDP ประกาศรอบที่ 2 ออกมาหดตัว 5.0% (QoQ) Supply Chain ทั่วโลกชะงักไปบางส่วน

แต่ตลาดหุ้นทั่วโลกวิ่งเหมือนม้าเมาม้า ด้วยรูปแบบการเคลื่อนไหวที่เหมือนกันมากขึ้นไปทุกที เป็นเพราะมาตรการ Unlimited QE ของ Fed อีกเช่นกัน

แน่นอนว่าปัจจัยเรื่องการเปิดเมืองมีผลบ้าง วัคซีนมีผลด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่า Unlimited QE นั้น คือปัจจัยสำคัญ

เพราะวันที่ Fed ประกาศใช้มาตรการดังกล่าว (21/3/20) ตลาดก็กลับมาขึ้นทันที ทำเอานักลงทุนสายวิกฤติ ที่ล้างพอร์ตไปก่อนหน้า "เหวอ" ไปตามๆกัน

ทำให้คำถามที่ว่าเราอยู่ในภาวะตรงกันข้ามกับ Taper Tantrum คงตอบได้ไม่ยากว่าใช่ หรืออาจใช้คำที่หลายๆ คนเรียกกันว่า Liquidity Frenzy, Money Adrenaline Rush และสารพัดชื่อตามแต่ความบรรเจิดของเจ้าของไอเดีย

ทำให้ปัจจัยต่อไปที่ต้องจับตาคือ ท่าทีของ Fed

ที่่หากส่งสัญญาณการ พิจารณา "อาจจะ" ลดวงเงิน QE หรือ ดูดเงินกลับขึ้นมา ตลาดคงน่ากลัวไม่น้อย......

แตถามว่าคราวนี้จะเหมือนคราวที่แล้วหรือไม่ ส่วนตัวเชื่อว่า Fed ยังมีไม้เด็ดเก็บไว้ก้นหีบอีก ทำให้ครั้งนี้ผลที่ออกมาอาจแตกต่างออกไปไม่มากก็น้อย

ส่วนจะเป็นอะไรนั้น ติดตามอ่านต่อวันพรุ่งนี้

#แอดลุง

Source : Bloomberg, Investing

บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ AKN Blog

ไม่อยากพลาดบทวิเคราะห์ดีๆ อย่าลืมกด "ติดตาม" นะครับ

.....

บทความห้ามพลาด

ผลประชุมเฟดไม่เร้าใจ แต่มั่นใจได้ว่าดอกเบี้ยต่ำอีกนาน

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย