ประเทศจีนได้รับความสนใจจากสายตาชาวโลกอีกครั้งเมื่อเกิดความไม่แน่นอนทางภูมิศาสตร์การเมืองขึ้น ในวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนประจำปีซึ่งเป็นงานทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจีนที่มีผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์กว่า 3,000 คนจากทั่วประเทศจีนเข้าร่วมมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ทางรัฐบาลจีนมีแผนจะเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการจัดการผู้ประท้วงในฮ่องกง ทางรัฐบาลจะออกกฏหมายใหม่ที่เอาไว้ลงโทษผู้ที่ต่อต้านแผ่นดินใหญ่ แม้ว่าจะยังไม่มีรายละเอียดของแผนแต่หากแผนนี้ได้รับการอนุมัติจริงจะเป็นการทำลายอิสรภาพและการปกครองตนเองของฮ่องกงอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่นักลงทุนกลัวคือเรื่องนี้จะทำให้สหรัฐฯ มีมาตรการตอบโต้จีนที่รุ่นแรงมากขึ้นและทำให้สหรัฐฯ ต้องพิจารณาการค้าขายกับฮ่องกงใหม่ทั้งหมด
พูดถึงความบาดหมางระหว่างสหรัฐฯ - จีน ล่าสุดสหรัฐฯ พยายามเรียกร้องให้จีนรับผิดชอบต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้สหรัฐฯ จะถอนบริษัทจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งบริษัทจีนที่จะสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ได้จะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดว่าไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่ได้รับสนับสนุนทางการเงินจากรัฐบาลจีน ยังมีประเด็นอื่นๆ อีกเช่นการขึ้นภาษีในสินค้าบางประเภทเพิ่มเติม บทลงโทษที่เกี่ยวข้องกับทางเศรษฐกิจและการอนุมัติขายอาวุธให้ประเทศไต้หวันซึ่งเรื่องนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่
คำถามที่สำคัญสำหรับนักลงทุนก็คือว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนจะส่งผลกับตลาดการเงินมากแค่ไหน ข่าวผลการประชุมของจีนเมื่อวันศุกร์ส่งผลให้สกุลเงินออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ดอลลาร์ร่วงลงเช่นเดียวกันกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ ดอลลาร์เทียบเยน ยังสามารถยืนอยู่ได้ ถ้าสหรัฐฯ จำเป็นต้องเปลี่ยนเงื่อนไขทางการค้ากับฮ่องกงจริง ผลกระทบทางจิตวิทยาจะมีนัยสำคัญและสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับตลาดหลักทรัพย์จะร่วงลงอย่างรวดเร็ว แต่เพราะการส่งออกระหว่างสหรัฐฯ กับฮ่องกงมีน้อย ดังนั้นในระยะยาวผลกระทบทางการค้าจะไม่มีนัยสำคัญกับสหรัฐฯ มาก สิ่งที่น่ากลัวจริงๆ คืออุตสาหกรรมการเงินในฮ่องกงหลังจากจีนเข้ามายึดครองแล้วจะเป็นอย่างไรและจีนจะออกมาตรการอะไรมาจัดการดูแลบริษัทอเมริกันในฮ่องกง ความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ
ในความเห็นของเราเชื่อว่าสหรัฐฯ กับจีนจะไม่บาดหมางกันไปถึงขนาดนั้น จริงอยู่ว่าการริดรอนสิทธิบางอย่างอาจเกิดขึ้นแต่ถ้าจะถึงขั้นพิพาทจนมีความเสี่ยงที่จะเป็นสงครามขึ้นมาถือเป็นความเสี่ยงที่สูงเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝั่งจีน ที่สำคัญกว่านั้นจีนไม่มีความจำเป็นเลยที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามในตอนนี้เพราะรออีกแค่ 6 เดือนก็จะถึงเวลาเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว ประเด็นปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ - จีนคือสิ่งที่ตามหลอกหลอนตลาดมาตลอดทั้งปี 2019 และส่งผลกระทบต่อความผันผวนในตลาดหุ้นอยู่ตลอด พาดหัวข่าวเชิงลบจากประเด็นสงครามการค้าฯ จะส่งผลกระทบต่อตลาดสกุลเงินและตลาดหุ้นแต่ข่าวความกังวลเกี่ยวกับจีนเชื่อว่าไม่นานตลาดก็จะหมดความสนใจลง
ปฏิทินเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ไม่มีข่าวเศรษฐกิจในระดับที่ส่งผลกระทบต่อมากนัก วันนี้ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หยุดทำการเนื่องจากเป็นวันรำลึกถึงทหารผ่านศึก (Memorial Day) ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้จะมีตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เชื่อว่าตัวเลขที่ออกมาจะดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 1 ฉบับปรับปรุงแล้ว ตัวเลขรายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลที่เชื่อว่าตัวเลขจะออกมาลดลงก่อนจะปิดท้ายสัปดาห์ด้วยคำแถลงการณ์จากประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลล์
ฝั่งยุโรปในสัปดาห์นี้มีรายงานข้อมูลตัวเลขจาก IFO และข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ กราฟ EUR/USD ยังคงไม่สามารถปรับตึวขึ้นเหนือ 1.10 ขึ้นไปได้ในสัปดาห์ที่แล้ว คาดว่ากราฟจะยังคงปรับตัวลดลงต่อไปแต่ถ้าข้อมูลตัวเลขความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมันดีขึ้นก็อาจทำให้กราฟปรับตัวขึ้นมาได้ สหราชอาณาจักรก็ไม่มีข่าวปัจจัยทางเศรษฐกิจสำคัญรายงานเช่นกัน ในสัปดาห์ที่แล้วตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรส่วนใหญ่ออกมาน่าผิดหวังซึ่งรวมไปถึงตัวเลขยอดขายปลีกของเดือนเมษายนที่ร่วงลงสู่จุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์การรายงาน นักวิเคราะห์มองว่าธนาคารกลางอังกฤษจะเพิ่มวงเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในเดือนหน้าและมีความเป็นไปได้ที่ BoE จะปรับอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับติดลบด้วย โดยสรุปแล้วปอนด์ น่าจะยังคงอ่อนมูลค่าต่อไปเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ
ตัวเลขยอดขายปลีกของแคนาดาในเดือนมีนาคมที่ลดลง 10% ส่งผลให้แคนาดาดอลลาร์อ่อนมูลค่ากว่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐแต่ตัวเลขที่ออกมาน้อยกลับดีกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากไม่นับกับตัวเลขการซื้อรถยนต์ที่ลดลงไป 0.4% ออก สัปดาห์นี้แคนาดามีรายงานตัวเลข GDP ของเดือนมีนาคมแต่นักลงทุนจะให้ความสำคัญกับแถลงการณ์จากผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดามากกว่า นอกจากนี้แคนาดาไม่มีข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจอื่นที่น่าสนใจรายงาน สถานการณ์ของสกุลเงินออสเตรเลียดอลลาร์ ในสัปดาห์นี้จะเป็นเช่นไรขึ้นอยู่กับว่าข่าวในประเทศจีนจะมีทิศทางไปทางไหนส่วนนิวซีแลนด์ดอลลาร์จะมีรายงานข้อมูลตัวเลขทางการค้า รายงานเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินและคำแถลงการณ์จากผู้ว่าการแบงก์ชาตินิวซีแลนด์นายอาเดรียน ออร์