InfoQuest - สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (26 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แต่ดอลลาร์ที่แข็งค่าและข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งทำลายความหวังที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้นั้น ได้สกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 83.85 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 49 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 89.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
ความวิตกเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันได้ช่วยหนุนราคาขึ้น เนื่องจากยังคงมีความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลกล่าวว่า คำตัดสินใด ๆ ของศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งกำลังสืบสวนการโจมตีอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ปีที่ผ่านมา และการโจมตีทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้น จะไม่กระทบต่อการดำเนินการของอิสราเอล
ขณะที่ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้น กองทัพอิสราเอลระบุเมื่อวันศุกร์ว่า กองทัพอากาศของอิสราเอลได้โจมตีในเขตเบกาตะวันตกของเลบานอน และสังหารสมาชิกของกลุ่มติดอาวุธที่โจมตีอิสราเอล
นอกจากนี้ อิสราเอลยังเพิ่มการโจมตีทางอากาศต่อเมืองราฟาห์ในวันพฤหัสบดี หลังจากเปิดเผยว่า จะอพยพพลเรือนออกจากเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา และเริ่มการโจมตีอย่างเต็มรูปแบบ แม้ว่าบรรดาพันธมิตรเตือนว่า การกระทำดังกล่าวอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมากก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แรงกดดันด้านเศรษฐกิจมหภาคสกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน หลังการเปิดเผยข้อมูลในวันศุกร์บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนก.พ.
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อไว้ที่ 2% และคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมในการประชุมนโยบายในสัปดาห์หน้า
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยกับรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า การขยายตัวของ GDP สหรัฐในไตรมาสแรกอาจถูกปรับขึ้น และอัตราเงินเฟ้อจะลดลง หลังจากปัจจัยที่ไม่ปกติทำให้เศรษฐกิจอ่อนแอที่สุดในรอบเกือบสองปี
นางเยลเลนกล่าวว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าที่บ่งชี้ในข้อมูลรายไตรมาสที่อ่อนแอลง โดยราคาน้ำมันปรับตัวผันผวนจากความเห็นของนางเยลเลนและการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในวันศุกร์
ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 34 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งมาจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐ
ด้านนายไฮธาม อัล-กาอิส เลขาธิการโอเปกกล่าวว่า จะไม่มีการหยุดใช้น้ำมันในเร็ว ๆ นี้ เพราะยังมีความต้องการอย่างมาก และแหล่งพลังงานอื่น ๆ ก็ไม่สามารถทดแทนได้อย่างเพียงพอ โดยเขาคิดว่า ควรมุ่งความสนใจไปที่การลดมลพิษไม่ใช่ลดการใช้น้ำมัน