เมื่อวันจันทร์ Morgan Stanley ได้ปรับจุดยืนของ Fidelity National Information Services (NYSE:FIS) โดยปรับลดอันดับหุ้นจาก Overweight เป็น Equalweight และรักษาราคาเป้าหมายไว้ที่ 79.00 ดอลลาร์ การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ประมาณ 77 ดอลลาร์นั้นใกล้เคียงกับเป้าหมาย ซึ่งบ่งชี้ถึงช่องว่างที่จํากัดสําหรับการเติบโต
บริษัทตั้งข้อสังเกตว่าการประเมินมูลค่าของรายได้ประมาณ 14 เท่าเป็นภาพสะท้อนที่ยุติธรรมของศักยภาพในการสร้างรายได้ในอนาคตของ FIS ความคาดหวังว่าการเติบโตของรายได้ของกลุ่มธนาคารจะเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 5% ดีขึ้นจากประมาณ 3% ในปีนี้ และเชื่อกันว่าการมีส่วนร่วมที่แข็งแกร่งขึ้นจาก Worldpay จะนํามาพิจารณาในราคาปัจจุบันของหุ้นแล้ว
Morgan Stanley เน้นย้ําว่าตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นไปได้หลายอย่างสําหรับ Fidelity National Information Services ได้เกิดขึ้นแล้ว รวมถึงวันนักลงทุน การขายส่วนใหญ่ของ Worldpay และการเปลี่ยนแปลงการจัดการที่สําคัญควบคู่ไปกับมาตรการประหยัดต้นทุน ด้วยเหตุการณ์เหล่านี้ในกระจกมองหลัง บริษัทจึงเห็นทริกเกอร์เหลืออยู่เพียงเล็กน้อยที่สามารถแก้ไขการคาดการณ์รายได้ขึ้นอย่างมาก และผลักดันการขยายตัวที่โดดเด่นในผลประกอบการของบริษัททวีคูณ
ราคาเป้าหมายที่ 79 ดอลลาร์ขึ้นอยู่กับรายได้ 14 เท่า ซึ่งแสดงถึงส่วนลด 1 เท่าสําหรับคู่แข่งที่เติบโตเร็วขึ้นในภาคข้อมูลทางการเงินที่ซื้อขายที่ทวีคูณ 15 เท่า การประมาณการของ Morgan Stanley และราคาเป้าหมายสําหรับ FIS ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแม้ว่าจะมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือก็ตาม
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Fidelity National Information Services (FIS) ได้ตกเป็นประเด็นของการอัปเกรดของนักวิเคราะห์หลายคน RBC Capital Markets เพิ่มราคาเป้าหมายสําหรับ FIS เป็น 93 ดอลลาร์ โดยอ้างถึงความเชื่อมั่นในกลุ่มตลาดทุนของบริษัทและการเร่งตัวของกลุ่มธนาคาร
บริษัทยังตั้งข้อสังเกตถึงการเปลี่ยนโฟกัสของ FIS จากการเป็นหน่วยงานที่เน้นการชําระเงินไปสู่เรื่องราวผลตอบแทนรวมที่เกิดซ้ําสูง ในทํานองเดียวกัน TD Cowen ได้เพิ่มราคาเป้าหมายจาก 70 ดอลลาร์เป็น 75 ดอลลาร์ โดยรักษาเรตติ้งถือไว้ Keefe, Bruyette & Woods (KBW) ยังปรับราคาเป้าหมายสําหรับ FIS ขึ้นเป็น 85 ดอลลาร์ โดยอิงจากอัตราภาษีที่ดีขึ้นและการมีส่วนร่วมที่แข็งแกร่งขึ้นจาก Worldpay
เมื่อเร็ว ๆ นี้ FIS ได้ประกาศการเติบโตต่อปีที่คาดการณ์ไว้ที่ 9-12% ในกําไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้ว (EPS) ในระยะกลาง ในขณะเดียวกันก็ปรับเพิ่มแนวโน้มทางการเงินทั้งปี 2024 บริษัทได้กําหนดเป้าหมายที่ทะเยอทะยานสําหรับการเติบโตของรายได้ที่ปรับปรุงแล้วและการขยายอัตรากําไร EBITDA สําหรับปี 2025 และ 2026
FIS ยังได้เพิ่มเป้าหมายการซื้อหุ้นคืน 500 ล้านดอลลาร์เป็น 4 พันล้านดอลลาร์สําหรับปี 2024 โดยมีแผนการซื้อหุ้นคืนประจําปีระหว่าง 0.8 พันล้านดอลลาร์ถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ในอีกสองปีข้างหน้า
การพัฒนาล่าสุดเหล่านี้เน้นย้ําถึงความมุ่งมั่นของ FIS ในการเติบโตอย่างยั่งยืนและให้ผลกําไร การเปิดตัวแพลตฟอร์ม Atelio ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเงินแบบฝังตัวของบริษัทเน้นย้ําถึงความทุ่มเทเพื่อนวัตกรรมในภาคเทคโนโลยีทางการเงิน สิ่งสําคัญคือต้องทราบว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการพัฒนาล่าสุดและแนวโน้มที่ให้ไว้นั้นอาจมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆ
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
ข้อมูลของ InvestingPro เน้นย้ําว่า Fidelity National Information Services (NYSE:FIS) มีประวัติที่มั่นคงด้วยเงินปันผลที่เพิ่มขึ้นเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกันและคงไว้เป็นเวลา 22 ปีติดต่อกัน ความสม่ําเสมอนี้อาจดึงดูดนักลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าสินทรัพย์สภาพคล่องของบริษัทเกินภาระผูกพันระยะสั้น ซึ่งบ่งบอกถึงความมั่นคงทางการเงิน นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า FIS จะทํากําไรได้ในปีนี้ โดยคาดว่ารายได้สุทธิจะเติบโต ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของรายได้ในเชิงบวกของบริษัทที่ 14.69% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2024
อย่างไรก็ตาม บริษัทซื้อขายที่ทวีคูณรายได้สูง โดยมีอัตราส่วน P/E ที่ปรับปรุงแล้วที่ 102.64 ซึ่งบ่งชี้ถึงการประเมินมูลค่าระดับพรีเมียมเมื่อเทียบกับการเติบโตของรายได้ในระยะสั้น และอัตราส่วน PEG ที่ 1.57 ซึ่งบ่งชี้ว่าการเติบโตนี้อาจถูกกําหนดราคา แม้จะมีการพิจารณาเหล่านี้ แต่มูลค่าตลาดที่ $41.86B และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 1.91% ณ ข้อมูลล่าสุด สะท้อนให้เห็นถึงบริษัทที่ยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน สําหรับผู้ที่มองหาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม มีเคล็ดลับ InvestingPro เพิ่มเติมสําหรับ Fidelity National Information Services ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ด้วยรหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 10% สําหรับ Pro รายปีและการสมัครสมาชิก Pro+ รายปีหรือรายปักษ์
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน