InfoQuest - นักบริหารเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 36.35 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.29 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.27 - 36.49 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหว ตามทิศทางค่าเงินหยวน ขณะที่ต่างชาติขายพันธบัตร 2 พันล้านบาท โดยคืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ "วันนี้บาทอ่อนค่าตามเงินหยวนเหมือนค่าเงินในภูมิภาค ไม่มีข่าวใหม่ ระหว่างวันลงไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 เดือน อาจมี Flow จากผู้ค้าทองหลังราคาในตลาดโลกปรับตัวลดลงไปมาก" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันจันทร์ไว้ที่ 36.15-36.45 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 151.58 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 151.47 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0816 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0864 ดอลลาร์/ยูโร - ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,381.04 จุด ลดลง 6.58 จุด, -0.47% มูลค่าซื้อขาย 39,300.70 ล้านบาท - สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 667.95 ล้านบาท - ปลัดกระทรวงการคลัง เผยขณะนี้คณะทำงานโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ไปรับฟังความเห็นจากภาคส่วนต่างๆ กว่าร้อยองค์กร ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนเรียบร้อยแล้ว กำลังรวบรวมคำตอบเพื่อส่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งคาดว่าบอร์ดชุด ใหญ่นัดประชุมก่อนสงกรานต์ - สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเตรียมเสนอแพ็คเกจมาตรการเพื่อช่วยเหลือด้านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 5 โครงการเข้าที่ ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประมาณต้นเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งมั่นใจจะช่วยกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนให้เพิ่มขึ้นได้ - สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐรวมตัวกันให้ความช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการด้วยการลด-ตรึงดอกเบี้ย โดยหวัง ให้ภาคการเงินออกมาตรการทางการเงินมาเสริมมาตรการด้านการคลัง เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจให้กับประชาชน - แวนการ์ด (Vanguard) ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์รายใหญ่ของสหรัฐคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยัง ไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ สวนทางกับรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ที่บ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดยังคงคาดการณ์ ว่า คณะกรรมการเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งในปี 2567 - สื่อต่างประเทศ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน มีกำหนดพบกับบรรดาผู้นำในภาคธุรกิจของ สหรัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งมีขึ้นระหว่างการประชุมประจำปี ณ กรุงปักกิ่ง - นักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งภายในเดือนต.ค.ปีนี้ และ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินเยนมีแนวโน้มที่จะเป็นปัจจัยผลักดันให้ BOJ ดำเนินการดังกล่าว