Investing.com -- ค่าเงินดอลลาร์ต่ำลงเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินปอนด์อังกฤษในการซื้อขายช่วงครึ่งวันเช้าวันพุธ จากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าลดลงทำให้ความน่าสนใจลดลงตามไปด้วย รวมถึงความคืบหน้าด้านการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากเฟดที่ยังคงเงียบเหงา
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลได้รับแรงกดดันจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางซบเซาในไม่กี่วันมานี้ โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีอายุสิบปี มูลค่าลดลงไปอยู่ที่ระดับ 2.64% จาก 2.80% ในเดือนที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลว่าเฟดจะสามารถเข้มงวดต่อนโยบายทางการเงินได้มากน้อยเพียงใด
ความกังวลดังกล่าวทำให้มีการตั้งตารอการประกาศรายงานการประชุมของเฟดในวันพุธนี้เป็นพิเศษ ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐฯ กลับแสดงจุดยืนที่เป็นกลางและยืดถือข้อมูลเป็นหลัก หักล้างแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ณ เวลา 03.20 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (08.20 GMT) ดัชนีเงินดอลลาร์ ที่เป็นตัวชี้วัดค่าเงินดอลล่าร์ต่อค่าเงินหลักอื่น ๆ อยู่ที่ระดับ 96.333 ตกลงมามากกว่าครึ่งเปอร์เซนต์จากระดับไฮเมื่อคืนก่อน ส่วนเงินยูโรปรับตัวขึ้นใกล้แตะระดับไฮประจำสัปดาห์นี้ที่ $1.1351 ภายหลังจากที่ข้อมูล ภาวะเงินเฟ้อของราคาผู้ผลิตเยอรมัน ในเดือนมกราคมอยู่ในระดับที่สูงกว่าที่คาดหวังไว้
ค่าเงินปอนด์เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับทั้ง เงินดอลล่าร์ และเงินยูโร หลังจากที่มีประกาศออกมาว่านายกรัฐมนตรีเธเรซา เมย์ จะยอมเลิกผลักดันนโยบายที่เรียกว่า “Malthouse Compromise” ซึ่งเป็นความพยายามที่จะปลดล็อกภาวะของชายแดนประเทศไอร์แลนด์หลังจาก Brexit โดยเมย์มีกำหนดการนัดพบประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ฌอง-โคล้ด ยุงเคอร์ในช่วงบ่ายวันพุธที่กรุงบรัสเซลส์
ภายในชั่วข้ามคืน เงินหยวนจีนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 0.5% เมื่อเทียบกับดอลล่าร์ สู่ระดับ 6.7227 ภายหลังจากที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าสหรัฐฯ จะใช้การเจรจาทางการค้าที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นเครื่องมือผูกมัดประเทศจีนเพื่อไม่ให้ค่าเงินลดลงไปมากกว่านี้
ส่วน เงินออสเตรเลีย และ เงินนิวซีแลนด์ ต่างก็ปรับตัวลงเล็กน้อย โดยที่ยังไม่มีตัวแปรสำคัญใด ๆ เป็นพิเศษ