Investing.com -- หุ้นของ Lumen Technologies (นิวยอร์ก:LUMN) เพิ่มขึ้น 4.3% หลังจากรายงานของ Reuters ว่าบริษัทได้เริ่มกระบวนการขายเส้นใยสําหรับผู้บริโภค การขายนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของ Lumen ในการย้ายออกจากธุรกิจตลาดมวลชนแบบเดิมและมุ่งเน้นไปที่การใช้ประโยชน์จากความเฟื่องฟูของปัญญาประดิษฐ์เพื่อการเติบโต
บริษัทโทรคมนาคมในเมืองมอนโร รัฐลุยเซียนา กําลังทํางานร่วมกับ Goldman Sachs เพื่อสํารวจข้อตกลงที่เป็นไปได้ ซึ่งอาจมีตั้งแต่การขายหน่วยไฟเบอร์ทั้งหมดไปจนถึงการร่วมทุนหรือการขายหุ้นบางส่วน การอภิปรายอยู่ในขั้นตอนเบื้องต้น และไม่มีความแน่นอนว่าจะบรรลุข้อตกลง ธุรกิจไฟเบอร์สําหรับผู้บริโภคซึ่งให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแก่ลูกค้าที่อยู่อาศัยอาจมีมูลค่าระหว่าง 6 พันล้านถึง 9 พันล้านดอลลาร์ขึ้นอยู่กับโครงสร้างข้อตกลง
การเปลี่ยนไปสู่บริการ AI และเทคโนโลยีของ Lumen ได้รับการทําเครื่องหมายด้วยการชนะสัญญาล่าสุดกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ รวมถึง Microsoft, Meta, Alphabet และ Amazon ข้อตกลงใหม่เหล่านี้มีส่วนทําให้ราคาหุ้นของ Lumen เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ แม้ว่ารายได้จะลดลงและขาดทุนสุทธิในไตรมาสล่าสุดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม ธุรกิจไฟเบอร์บรอดแบนด์ของบริษัทเติบโต 16.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
ความเคลื่อนไหวเพื่อขายกิจการเส้นใยสําหรับผู้บริโภคสอดคล้องกับความคิดเห็นจาก Chris Stansbury CFO ของ Lumen ในการประชุม Bank of America Leveraged Finance Conference Stansbury ระบุว่าธุรกิจไฟเบอร์เป็นสินทรัพย์ที่มีค่า แต่อาจได้รับการจัดการที่ดีกว่าโดยบริษัทที่มีข้อเสนอไร้สาย
การตัดสินใจของ Lumen ในการขายหน่วยไฟเบอร์ยังถูกมองว่าเป็นความพยายามในการลดหนี้จํานวนมาก ซึ่งอยู่ที่ 18.1 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 30 กันยายน ในเดือนกันยายนบริษัทได้ดําเนินการแลกเปลี่ยนหนี้เพื่อยืดอายุพันธบัตรซึ่งนําไปสู่การลดอันดับเครดิตโดย S&P Global Ratings อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤศจิกายน S&P ได้วาง Lumen ไว้ใน CreditWatch Positive ซึ่งบ่งชี้ถึงการอัปเกรดอันดับเครดิตที่เป็นไปได้หลังจากผลประกอบการไตรมาสที่สี่ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการชนะสัญญา AI ล่าสุด
Lumen เดิมชื่อ CenturyLink ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์หลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงการขายทรัพย์สินของผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนในท้องถิ่นให้กับ Brightspeed ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Apollo ในปี 2021 ในราคา 7.5 พันล้านดอลลาร์ การมุ่งเน้นไปที่บริการเครือข่ายและความปลอดภัยทางไซเบอร์สําหรับบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่กว้างขึ้นเพื่อเปลี่ยนจากธุรกิจเดิมที่ลดลงและยอมรับแนวโน้มเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน