หุ้นของ Western Digital Corp. ลดลงอย่างมาก โดยลดลงมากถึง 6.9% ในช่วงการซื้อขายที่คึกคักที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม ภาวะเศรษฐกิจถดถอยนี้เกิดขึ้นหลังจากผู้บริหารของบริษัทคาดการณ์ช่วงเวลาที่ท้าทายในอนาคตในการประชุมเทคโนโลยีระดับโลกรายปีที่ 22 ของบาร์เคลย์ ฝ่ายบริหารเน้นย้ําว่าภาคเทคโนโลยีอยู่ในจุดกลางรอบ โดยมีสินค้าคงคลังจํานวนมากของพีซีและสมาร์ทโฟนที่นําไปสู่อุปสงค์ที่ลดลง
ไตรมาสปัจจุบันนํามาซึ่งความท้าทายด้านราคามากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และความยากลําบากเหล่านี้อาจคงอยู่จนถึงไตรมาสหน้า ตามที่ฝ่ายบริหารของ Western Digital กล่าว ผลกระทบของ p เทคโนโลยี เหล่านี้ยังรู้สึกได้จากผู้เล่นในอุตสาหกรรมรายอื่น ๆ โดยหุ้น Seagate Technology และ Micron Technology ก็ร่วงลงเช่นกัน
Amit Daryanani นักวิเคราะห์ของ Evercore ISI ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานการณ์ของ Western Digital โดยอ้างอิงถึงการอภิปรายในการประชุมคู่แข่งที่ซีอีโอ David Goeckeler และ CFO Wissam Jabre เสนอการอัปเดตเกี่ยวกับแนวโน้มภายในไตรมาส Daryanani ตั้งข้อสังเกตว่าบริษัทต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านราคาที่รุนแรงกว่าที่คาดไว้สําหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบแฟลชเมื่อไตรมาสดําเนินไป อย่างไรก็ตาม ผลการดําเนินงานของ Western Digital ในไตรมาสเดือนกันยายนนั้นสูงกว่าความคาดหมายที่ต่ํา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับอัตรากําไรในธุรกิจ NAND ซึ่งเกี่ยวข้องกับที่เก็บข้อมูลแฟลช
เมื่อมองไปข้างหน้า ฝ่ายบริหารมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดพีซีและสมาร์ทโฟน แม้ว่าสิ่งนี้คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใกล้ถึงปีปฏิทิน 2025 แนวโน้มในระยะสั้นเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้นสําหรับ SSD สําหรับองค์กร ซึ่งคาดว่าจะเป็นสัดส่วนที่มากขึ้นของการจัดส่งบิตแฟลชของบริษัทภายในปีงบประมาณ 2025 โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เก็บข้อมูลประสิทธิภาพสูงสําหรับงานต่างๆ เช่น การฝึกอบรมโมเดลภาษาขนาดใหญ่
Western Digital ยังเชื่อว่าฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) จะยังคงเป็นโซลูชันการจัดเก็บที่ต้องการสําหรับข้อมูลจํานวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมไฮเปอร์สเกล เนื่องจากข้อได้เปรียบด้านต้นทุน บริษัทยังสํารวจนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการจัดการห่วงโซ่อุปทานเพื่อปรับปรุงอัตรากําไรของ HDD ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
โดยสรุป ในขณะที่ Western Digital กําลังเผชิญกับความท้าทายด้านราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดแฟลช บริษัทกําลังดําเนินการเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านี้และยังคงหวังว่าตลาดจะฟื้นตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน