United Airlines คาดการณ์กําไรที่แข็งแกร่งขึ้นสําหรับไตรมาสปัจจุบัน โดยคาดการณ์กําไรที่ปรับปรุงแล้วตั้งแต่ 2.50 ถึง 3 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เฉลี่ยที่ 2.68 ดอลลาร์ต่อหุ้นตามข้อมูล LSEG
การประกาศนี้เป็นไปตามผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่สาม ซึ่งสายการบินรายงานกําไรที่ปรับปรุงแล้วที่ 3.33 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ 3.17 ดอลลาร์ต่อหุ้น
สายการบินในชิคาโกยังได้ส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นในสุขภาพทางการเงินด้วยการเปิดตัวโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดใหญ่ของ COVID-19
การตัดสินใจของยูไนเต็ดเกิดขึ้นหลังจากตัวเลขรายได้ในประเทศในเดือนสิงหาคมและกันยายนเป็นบวก ซึ่งบ่งชี้ถึงอํานาจการกําหนดราคาที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในช่วงฤดูร้อน อุปทานที่นั่งมากเกินไปในตลาดภายในประเทศทําให้สายการบินเสนอค่าโดยสารลดราคา ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สายการบินในสหรัฐฯ ได้ปรับความจุ โดยการเติบโตของที่นั่งภายในประเทศประจําปีชะลอตัวลงเหลือ 1.5% ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนจาก 5.5% ในเดือนกรกฎาคม ตามรายงานของนักวิเคราะห์ของ BofA
สก็อตต์ เคอร์บี้ ซีอีโอของยูไนเต็ดกล่าวว่าการลดลงของกําลังการผลิตที่ไม่ก่อให้เกิดผลในช่วงกลางเดือนสิงหาคมถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ผลักดันให้สายการบินก้าวข้ามความคาดหวังในไตรมาสที่สาม แถลงการณ์ของ Kirby เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มอุตสาหกรรมในวงกว้าง โดย Delta Air Lines ยังรายงานรายได้จากหน่วยที่ดีขึ้นในไตรมาสที่สาม และคาดว่าแนวโน้มเชิงบวกจะคงอยู่จนถึงสิ้นปี
แนวโน้มของอุตสาหกรรมการบินแข็งแกร่งขึ้นอีกจากราคาน้ํามันเครื่องบินในอเมริกาเหนือที่ลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งส่งผลให้หุ้นสายการบินเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคม ดัชนี ตลาดหลักทรัพย์
ยูไนเต็ดระบุว่าความสําเร็จทางการเงินในปัจจุบันมาจากการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งให้ผลกําไรที่สูงขึ้นและกระแสเงินสดอิสระ ทําให้สามารถกลับมาซื้อหุ้นคืนได้อีกครั้ง
เคอร์บี้อธิบายถึงโครงการซื้อคืนมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของกลยุทธ์การคืนทุนที่สม่ําเสมอและมีระเบียบวินัย เขาเน้นย้ําว่าบริษัทจะให้ความสําคัญกับการลงทุนในธุรกิจและการชําระหนี้มากกว่าผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น
ยูไนเต็ดมีกําหนดจะหารือเกี่ยวกับผลประกอบการทางการเงินเพิ่มเติมในการโทรกับนักวิเคราะห์และนักลงทุนในเช้าวันพุธ
รอยเตอร์มีส่วนร่วมในบทความนี้
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน