โฟล์คสวาเกนชั่งน้ําหนักการปิดโรงงานในเยอรมนีท่ามกลางการลดต้นทุน

ในการพัฒนาที่สําคัญสําหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ Volkswagen AG กําลังพิจารณาการปิดโรงงานบางแห่งในเยอรมนี ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เน้นย้ําถึงแรงกดดันด้านต้นทุนที่รุนแรงที่ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตรถยนต์ในยุโรปกําลังเผชิญจากคู่แข่งในเอเชีย การเคลื่อนไหวนี้จะถือเป็นตัวอย่างแรกของการกระทําดังกล่าวในประวัติศาสตร์ของบริษัท

การปิดระบบที่อาจเกิดขึ้นเป็นบททดสอบที่สําคัญครั้งแรกสําหรับ CEO Oliver Blume ซึ่งได้รับการระบุว่าประนีประนอมได้มากกว่า Herbert Diess รุ่นก่อนของเขา สภางานของบริษัทได้ระบุว่าโรงงานผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่อย่างน้อยหนึ่งแห่งและโรงงานส่วนประกอบหนึ่งแห่งล้าสมัย และสัญญาว่าจะคัดค้านข้อเสนอของคณะกรรมการบริหารอย่างรุนแรง

CFO Arno Antlitz และ Thomas Schaefer หัวหน้าแบรนด์ Volkswagen มีกําหนดจะกล่าวสุนทรพจน์กับพนักงานในการประชุมสภาแรงงานในวันพุธ Daniela Cavallo หัวหน้าสภางานและสมาชิกของสหภาพแรงงาน IG Metall ที่มีอิทธิพลคาดว่า CEO Blume จะเข้าร่วมการอภิปรายด้วย ซึ่งเธอคาดการณ์ว่าจะค่อนข้างท้าทายสําหรับผู้บริหารของบริษัท

IG Metall เป็นพลังที่น่าเกรงขามในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ภายในบริษัท ดังที่เห็นเมื่อ Herbert Diess ออกจากตําแหน่ง CEO ในปี 2022 ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ได้แนะนําว่าไซต์ Volkswagen ใน Osnabrueck และ Dresden อาจได้รับการพิจารณาปิด รัฐ Lower Saxony ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับสองของ Volkswagen ได้สนับสนุนการตรวจสอบของบริษัท

โฟล์คสวาเกนซึ่งมีพนักงานทั่วโลกประมาณ 680,000 คน ยังประกาศว่าอาจต้องยุติโครงการความมั่นคงในการทํางานที่มีมาอย่างยาวนานซึ่งดําเนินการมาตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งป้องกันการลดงานจนถึงปี 2029 การตัดสินใจนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการหารือกับสภางาน

ข้อตกลงความมั่นคงในการทํางานในปัจจุบันครอบคลุมโรงงานของ Volkswagen ใน Wolfsburg, Hanover, Braunschweig, Salzgitter, Kassel และ Emden บริษัทกําลังเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทาย โดยมีการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในยุโรป สหรัฐอเมริกา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่าง BYD กําลังครองส่วนแบ่งการตลาด

แบรนด์โฟล์คสวาเกนกําลังเป็นหัวหอกในความพยายามในการลดต้นทุนโดยมีเป้าหมายที่จะประหยัดเงิน 10 พันล้านยูโรภายในปี 2026 เพื่อช่วยในการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า ความคิดริเริ่มนี้มีความสําคัญเนื่องจากบริษัทพยายามปรับปรุงผลการดําเนินงานทางการเงินหลังจากเห็นมูลค่าหุ้นลดลงอย่างมากในช่วงห้าปีที่ผ่านมา

การปิดโรงงานที่อาจเกิดขึ้นเป็นการกระทบกระเทือนต่อนายกรัฐมนตรีเยอรมนี Olaf Scholz ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลประสบความพ่ายแพ้ในการลงคะแนนเสียงระดับภูมิภาคเมื่อวันอาทิตย์ Carsten Brzeski จาก ING Research

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน