Marriott Vacations Worldwide (NYSE: VAC) รายงานผลประกอบการทางการเงินที่หลากหลายสําหรับไตรมาสที่สองของปี 2024 โดยประสิทธิภาพการเช่าสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในขณะที่ตัวเลขปริมาณต่อแขก (VPG) ที่ลดลงส่งผลกระทบต่อยอดขายตามสัญญา บริษัทได้แก้ไขการคาดการณ์ยอดขายตามสัญญาทั้งปีและได้เพิ่มทุนสํารองการขายเนื่องจากอัตราการผิดนัดชําระหนี้ที่คาดว่าจะสูงขึ้น แม้จะมีผลลัพธ์ที่หลากหลาย แต่ Marriott Vacations ยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นผ่านการจ่ายเงินปันผลและการซื้อคืน และมีแผนสําหรับการเปิดรีสอร์ทใหม่
ประเด็นสําคัญ
- กําไรค่าเช่าในกลุ่ม Vacation Ownership พุ่งขึ้นกว่า 60% เมื่อเทียบเป็นรายปี
- การเติบโตของยอดขายตามสัญญาทั้งปีคาดว่าจะอยู่ระหว่าง 1% ถึง 3% โดยคาดว่า VPG จะลดลง 7% ในช่วงครึ่งหลังของปี
- บริษัทได้ลดคําแนะนํา EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วทั้งปีลงเหลือระหว่าง 685 ล้านถึง 715 ล้านดอลลาร์
- Marriott Vacations ตั้งเป้าลดเลเวอเรจลงเหลือ 3 เท่าภายในสิ้นปี 2568 และคืนเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้น
- บริษัทตระหนักถึงความจําเป็นในการปรับโปรโมชั่นและกลยุทธ์เพื่อปรับปรุง VPG โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ซื้อครั้งแรก
- การผิดนัดชําระหนี้และการผิดนัดชําระหนี้ที่สูงขึ้นในการขายปี 2022 และ 2023 ทําให้เงินสํารองขาดทุนเงินกู้เพิ่มขึ้น
- ผลการดําเนินงานของพอร์ตโฟลิโอของบริษัทสอดคล้องกับแนวโน้มในภาคการเงินในวงกว้าง
แนวโน้มบริษัท
- Marriott Vacations คาดว่าการเติบโตของทัวร์จะเพิ่มขึ้น 2 ถึง 3 จุดจากไปป์ไลน์แบบแพ็คเกจ
- บริษัทวางแผนที่จะเปิดรีสอร์ทใหม่ในสถานที่ต่างๆ เช่น ไวกีกิ สะวันนา ชาร์ลสตัน ไทย และบาหลีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
- แม้จะมีผลประกอบการที่หลากหลายในไตรมาสที่ 2 แต่บริษัทก็มั่นใจในความแข็งแกร่งของธุรกิจและความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดอิสระ
ไฮไลท์ Bearish
- VPG ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ผู้ซื้อครั้งแรก เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคอย่างระมัดระวัง
- บริษัทสังเกตเห็นการผิดนัดชําระหนี้และการผิดนัดชําระหนี้ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าที่มีคะแนน FICO ต่ํากว่า
- การเข้าซื้อกิจการของ Welk ใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ โดยมีอัตราการผิดนัดชําระหนี้ที่สูงขึ้นในหมู่ลูกค้าของ Welk
ไฮไลท์ Bullish
- บริษัทมีอัตราการเติบโต 27% ในไตรมาสที่สองเมื่อไม่รวมค่าใช้จ่าย และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตทั้งปีประมาณ 25%
- ต้นทุนผลิตภัณฑ์ต่ํากว่าที่คาดไว้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่ออัตรากําไรของบริษัท
พลาด
- บริษัทต้องปรับแนวทางการขายตามสัญญาทั้งปีเนื่องจาก VPG ต่ํากว่าที่คาดไว้
- ช่วงคําแนะนํา EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วทั้งปีได้รับการปรับลดลง
ไฮไลท์ Q&A
- John Geller ยืนยันว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สําคัญในเกณฑ์การรับประกันการขาย แม้ว่าจะมีการประเมินข้อกําหนดการชําระเงินดาวน์อย่างต่อเนื่อง
- Jason Marino เน้นย้ําถึงอัตราการเติบโตของบริษัทและแสดงความมั่นใจในมูลค่าระยะยาวของการเข้าซื้อกิจการ Welk แม้จะมีความท้าทายในปัจจุบัน
- มีการหารือเกี่ยวกับแผนการเปิดรีสอร์ทแห่งใหม่ โดยเน้นย้ําถึงการให้ความสําคัญกับประสบการณ์ของลูกค้าและการสร้างกระแสเงินสดอิสระของบริษัท
Marriott Vacations Worldwide ยังคงนําทางสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่ท้าทายในขณะที่มุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ระยะยาวเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับทั้งลูกค้าและผู้ถือหุ้น ความมุ่งมั่นของบริษัทในการขยายพอร์ตโฟลิโอรีสอร์ทและปรับปรุงประสิทธิภาพการขาย ในขณะที่จัดการความเสี่ยงทางการเงิน แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่สมดุลในการเติบโตและความมั่นคง
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
Marriott Vacations Worldwide (NYSE: VAC) ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในความมุ่งมั่นต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นและการเติบโตเชิงกลยุทธ์ แม้ว่าจะมีความท้าทายที่สะท้อนให้เห็นในผลการดําเนินงานทางการเงินล่าสุด ความทุ่มเทของบริษัทในการคืนมูลค่านั้นเห็นได้ชัดผ่านกลยุทธ์การซื้อหุ้นคืนเชิงรุกและการจ่ายเงินปันผลที่สม่ําเสมอ นี่คือข้อมูลเชิงลึกที่สําคัญบางส่วนจากข้อมูลล่าสุดจาก InvestingPro:
ข้อมูล InvestingPro ระบุว่า Marriott Vacations มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 2.7 พันล้านดอลลาร์ โดยมีอัตราส่วน P/E ที่ 17 ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกี่ยวกับศักยภาพในการสร้างรายได้ของบริษัท อัตราส่วน P/E ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 อยู่ที่ต่ํากว่า 12.6 ซึ่งบ่งชี้ถึงการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสําหรับนักลงทุนเมื่อพิจารณาจากรายได้ของบริษัทในปีที่ผ่านมา
ตัวเลขรายได้หดตัว โดยมีการเปลี่ยนแปลง -7.04% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่ระมัดระวังของบริษัทและความท้าทายในตัวเลข VPG อย่างไรก็ตาม อัตรากําไรขั้นต้นยังคงแข็งแกร่งที่ 56.75% ซึ่งบ่งชี้ว่าแม้จะมีแรงกดดันด้านรายได้ แต่บริษัทยังคงมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนและสร้างผลกําไรจากการขายได้อย่างแข็งแกร่ง
เคล็ดลับ InvestingPro เน้นย้ําถึงประวัติการจ่ายเงินปันผลของบริษัท โดยตั้งข้อสังเกตว่า Marriott Vacations ได้เพิ่มเงินปันผลเป็นเวลาสามปีติดต่อกันและคงการจ่ายเงินปันผลเป็นเวลา 11 ปีติดต่อกัน ผลตอบแทนที่สม่ําเสมอให้กับผู้ถือหุ้นนี้เป็นสัญญาณเชิงบวกสําหรับผู้ที่มองหาการลงทุนที่สร้างรายได้ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลในปัจจุบันอยู่ที่ 3.97% ซึ่งสามารถแข่งขันได้ในตลาดและอาจดึงดูดนักลงทุนที่มุ่งเน้นรายได้
เคล็ดลับ InvestingPro อีกฉบับชี้ให้เห็นว่าหุ้นซื้อขายใกล้ระดับต่ําสุดในรอบ 52 สัปดาห์ และแม้ว่าราคาจะลดลงอย่างมากในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทจะยังคงทํากําไรได้ในปีนี้ นี่อาจบ่งชี้ถึงโอกาสที่เป็นไปได้สําหรับนักลงทุนในการพิจารณาหุ้นของ Marriott Vacations ที่จุดเริ่มต้นที่ต่ํากว่า โดยคาดหวังว่าจะมีความสามารถในการทํากําไรที่สนับสนุนกรณีการลงทุน
สําหรับผู้อ่านที่สนใจในการวิเคราะห์เพิ่มเติมและเคล็ดลับเพิ่มเติมของ InvestingPro มีเคล็ดลับเพิ่มเติมอีก 9 ข้อบนแพลตฟอร์ม InvestingPro ซึ่งนําเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของตลาดของ Marriott Vacations ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ที่ https://www.investing.com/pro/VAC โดยให้ข้อมูลที่มีค่าสําหรับการตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน