ยูนิลีเวอร์ บมจ.(ULVR. L) รายงานผลการดําเนินงานทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี โดยมียอดขายพื้นฐานเติบโต 4.1% และอัตรากําไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญเป็น 45.7% กําไรจากการดําเนินงานพื้นฐานของบริษัทเพิ่มขึ้น 17.1% เป็น 6.1 พันล้านยูโร โดยได้รับแรงหนุนจากปริมาณที่เพิ่มขึ้น 4% จาก Power Brands แม้จะมีผลกําไรเหล่านี้ แต่ธุรกิจไอศกรีมของยูนิลีเวอร์ก็ประสบกับไตรมาสที่ท้าทาย
บริษัทได้ประกาศแผนการที่จะแยกหน่วยนี้และมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพการทํางาน นอกจากนี้ ยูนิลีเวอร์ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนและคาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 3% ถึง 5% สําหรับทั้งปี 2024
ประเด็นสําคัญ
- ยอดขายพื้นฐานเติบโต 4.1% ในครึ่งปีแรกของ โดยมีปริมาณเพิ่มขึ้น 2.6%
- อัตรากําไรขั้นต้นขยายตัว 420 จุดพื้นฐานเป็น 45.7%
- กําไรจากการดําเนินงานพื้นฐานเพิ่มขึ้น 17.1% เป็น 6.1 พันล้านยูโร
- Power Brands มียอดขายพื้นฐานเพิ่มขึ้น 5.7%
- การลงทุนเพิ่มเติม 700 ล้านยูโรในแบรนด์และการตลาด
- แผนการที่จะแยกธุรกิจไอศกรีมเนื่องจากไตรมาสที่น่าผิดหวัง
- Unilever จะรักษาเงินทุนหมุนเวียนติดลบและคาดว่า CapEx จะอยู่ที่ประมาณ 3% ของมูลค่าการซื้อขาย
- เงินปันผลระหว่างกาลรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 3% ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนสูงถึง 1.5 พันล้านยูโร
- แผนปฏิบัติการการเติบโตเพื่อส่งมอบการเติบโตคุณภาพสูงที่เร็วขึ้นและฝังวัฒนธรรมการปฏิบัติงานที่คมชัดยิ่งขึ้น
แนวโน้มบริษัท
- ยูนิลีเวอร์คาดการณ์การเติบโตของยอดขายพื้นฐานสําหรับปี 2024 จะอยู่ภายใน 3% ถึง 5%
- อัตรากําไรขั้นต้นคาดว่าจะสูงกว่า 44% ตลอดทั้งปี
- มุ่งเน้นแผนปฏิบัติการการเติบโตอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงธุรกิจและบรรลุผลการดําเนินงานที่สม่ําเสมอ
ไฮไลท์ Bearish
- ธุรกิจไอศกรีมมีไตรมาสที่น่าผิดหวังซึ่งได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางการตลาดและสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออํานวย
- ความท้าทายในหมวดหมู่ความงามของสหรัฐฯ และการชะลอตัวในจีน
- การคาดการณ์การใช้จ่ายทางการตลาดที่แข่งขันได้เพิ่มขึ้นและอัตราเงินเฟ้อในสินค้าโภคภัณฑ์หลัก
ไฮไลท์ Bullish
- การเติบโตของปริมาณในเชิงบวกใน 4 ใน 5 กลุ่มธุรกิจในไตรมาสที่ 2
- การปรับปรุงอัตรากําไรขั้นต้นอย่างมีนัยสําคัญซึ่งขับเคลื่อนโดยเลเวอเรจปริมาณการผสมผสานเชิงบวกและความคิดริเริ่มในการจัดซื้อ
- เพิ่มการลงทุนในแบรนด์และการตลาดเพื่อยกระดับ Power Brands
- การมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับตลาดเกิดใหม่และการลงทุนอย่างต่อเนื่องในอเมริกาเหนือ
พลาด
- ไม่มีรายละเอียดเฉพาะระหว่างปริมาณและการผสมผสานของตัวเลขทางการเงิน
- ธุรกิจไอศกรีมที่มีผลการดําเนินงานไม่ดีในยุโรป อเมริกาเหนือ และจีน
ไฮไลท์ Q&A
- แนวทางของยูนิลีเวอร์ในด้านประสิทธิภาพของแบรนด์ในขณะนี้พิจารณาการตลาดการจัดจําหน่ายและราคาแบบองค์รวม
- 75% ของผลงานของแบรนด์ UAG มาจากปริมาณ โดย 25% มาจากการผสมผสาน
- แผนการออมเงิน 800 ล้านยูโรกําลังดําเนินการ โดยมีเพียง 5-10% เท่านั้น
- การพรีเมี่ยมของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลมีความคืบหน้าแม้จะชะลอตัวในตลาดสินค้าฟุ่มเฟือย
ผลประกอบการ H1 ของ Unilever แสดงให้เห็นถึงบริษัทที่ปรับตัวให้เข้ากับความท้าทายของตลาดในขณะที่ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของบริษัท การมุ่งเน้นไปที่ Power Brands การลงทุนทางการตลาดที่เพิ่มขึ้น และการปรับโครงสร้างธุรกิจไอศกรีมสะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองเชิงกลยุทธ์ต่อสภาวะตลาดในปัจจุบัน การให้ความสําคัญกับความยั่งยืนของบริษัทและการใช้มาตรการประหยัดต้นทุนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเติบโตในระยะยาวและมูลค่าของผู้ถือหุ้น มาตรการเชิงรุกของยูนิลีเวอร์ในด้านนวัตกรรมและผลผลิต ควบคู่ไปกับแนวโน้มที่ระมัดระวังแต่มองโลกในแง่ดี
ข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro
ผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีแรกของยูนิลีเวอร์ได้รับการชี้ให้เห็นเพิ่มเติมจากข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกของ InvestingPro ในปัจจุบัน ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด 149.68 พันล้านดอลลาร์ บริษัทจึงยืนหยัดในฐานะบริษัทรุ่นใหญ่ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ซึ่งสอดคล้องกับเคล็ดลับของ InvestingPro ที่เน้นย้ําถึงสถานะของยูนิลีเวอร์ในฐานะผู้เล่นที่โดดเด่นในสาขานี้ นอกจากนี้ อัตราส่วน P/E ของบริษัทที่ 21.08 และ P/E ที่ปรับปรุงแล้วสําหรับสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 ที่ 20.66 สะท้อนให้เห็นถึงการประเมินมูลค่าตลาดที่พิจารณาถึงความสามารถในการทํากําไรที่สม่ําเสมอและรายได้ที่มั่นคง
ตัวชี้วัดของ InvestingPro Data บ่งชี้ว่ารายได้หดตัวเล็กน้อย 0.96% ในช่วงสิบสองเดือนที่ผ่านมา ณ ไตรมาสที่ 2 ปี 2024 แต่บริษัทสามารถบรรลุอัตรากําไรขั้นต้นที่ 42.9% ซึ่งเน้นย้ําถึงความสามารถในการรักษาความสามารถในการทํากําไรท่ามกลางสภาวะตลาดที่ท้าทาย นอกจากนี้ ด้วยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 3.05% และประวัติการจ่ายเงินปันผลติดต่อกัน 33 ปี ตามที่กล่าวไว้ใน InvestingPro Tips ยูนิลีเวอร์แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการคืนมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้น
เคล็ดลับ InvestingPro ยังเปิดเผยว่า Unilever ดําเนินงานด้วยหนี้สินในระดับปานกลางและซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในกลยุทธ์และการดําเนินการของบริษัท นอกจากนี้ ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ความสามารถในการทํากําไรสําหรับปี แต่เคล็ดลับเกี่ยวกับภาระผูกพันระยะสั้นที่เกินสินทรัพย์สภาพคล่องอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนเมื่อพิจารณาถึงสถานะทางการเงินของบริษัท
สําหรับผู้อ่านที่สนใจในการวิเคราะห์เชิงลึกและข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม InvestingPro ขอเสนอเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Unilever ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ที่ https://www.investing.com/pro/UL ใช้รหัสคูปอง PRONEWS24 เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 10% สําหรับการสมัครสมาชิก Pro รายปีและรายปีหรือรายปักษ์ และค้นพบเคล็ดลับ InvestingPro เพิ่มเติม 5 ข้อที่สามารถแจ้งการตัดสินใจลงทุนของคุณเพิ่มเติม
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน