โดย Ambar Warrick
Investing.com – ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในวันอังคารหลังจากผลประกอบการของบริษัทที่แข็งแกร่งหลายแห่งได้กระตุ้นการฟื้นตัวในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในหนึ่งคืน แม้ว่าสัญญาณเศรษฐกิจที่ปะปนกันและความกังวลเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อหุ้นจีน
ดัชนีหุ้นบลูชิพของจีน CSI 300 ลดลง 0.1% ในขณะที่ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ซื้อขายทรงตัว ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนยังคงส่งผลกระทบในตลาดหุ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงส่งสัญญาณว่าจีนไม่มีความตั้งใจที่จะปรับลดนโยบายควบคุมโรคโควิด19 ที่เข้มงวดลง
แต่รัฐบาลได้เปิดเผยแผนการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ในขณะที่ธนาคารกลางจีนยังคงนโยบายการเงินในระดับที่ผ่อนคลายวานนี้ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ สิ่งนี้ช่วยให้ตลาดหุ้นจีนเริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแง่บวกเล็กน้อย
ความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศลดลงจากการที่สหรัฐฯ ขัดขวางไม่ให้บริษัทจีนนำเข้าชิปที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีของอเมริกา การเคลื่อนไหวดังกล่าวเพียงพอที่จะขัดขวางความพยายามในการผลิตชิปของปักกิ่งอย่างรุนแรง และอาจส่งผลให้เกิดมาตรการตอบโต้ได้เช่นกัน
ยังคงมีสัญญาณเชิงบวกบางประการสำหรับหุ้นจีน บริษัท BYD (SZ:002594) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลกหุ้นพุ่งขึ้นกว่า 5% หลังจากที่ทำกำไรในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นกว่า 300%
หุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกง (HK:1211) ของบริษัทพุ่งขึ้นกว่า 6% และช่วยกระตุ้นการเพิ่มขึ้น 1% ใน ดัชนีฮั่งเส็ง
ตลาดต่าง ๆ ของเอเชียทำกำไรขึ้นตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ดัชนี นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.5% ในขณะที่ดัชนี Taiwan Weighted เพิ่มขึ้น 1.2% โดยตลาดหุ้นทั้งสองฟื้นตัวจากการขาดทุนอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นของไต้หวันได้รับผลกระทบอย่างหนักจากมาตรการควบคุมของสหรัฐฯ เนื่องจากพวกเขาได้รับผลกระทบจากความต้องการชิปของจีน
ดัชนีต่าง ๆ ในตลาดวอลล์สตรีทแรลลี่ขึ้นชั่วข้ามคืน หลังจากที่หุ้นธนาคารรายใหญ่ทำรายได้ในไตรมาส 3 ได้ดีกว่าที่คาดไว้ ตอนนี้ความสนใจมุ่งไปที่การอ่านข้อมูลที่กำลังจะเกิดขึ้นจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และบริษัทผู้บริโภค เพื่อดูว่าบริษัทได้ดำเนินการอย่างไรท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
บริษัทใหญ่ ๆ ในเอเชียหลายแห่งเตรียมที่จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินของฮฮ่องกงอย่าง Hong Kong Exchange and Clearing (HK:0388) กลุ่มบริษัทในสิงคโปร์ Keppel Corp (SGX:KPLM) และยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคม China Mobile Ltd (HK:0941) และ China Telecom (HK:0728)
อีกฝั่งหนึ่ง ดัชนี S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียพุ่งขึ้นเกือบ 2% ในวันอังคาร แต่บริษัทขุดแร่ระดับโลกอย่าง Rio Tinto Ltd (ASX:RIO) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีจำนวนหุ้นมากที่สุดรายหนึ่งในดัชนี กลับทำผลงานได้ไม่ค่อยดีเนื่องจากการส่งออกท่ชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 3 แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มเศรษฐกิจอ่อนแอในปีนี้