รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

หุ้นเอเชียร่วงจากข้อมูลการค้าจีนที่อ่อนแอ ประชุมเฟดใกล้เข้ามา

เผยแพร่ 07/09/2565 12:38
อัพเดท 07/09/2565 13:42

โดย  Ambar Warrick  

Investing.com – ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับระดับลงในวันพุธ เหตุเพราะความกลัวว่าเฟดจะเข้มงวดนโยบายการเงินมากขึ้น ขณะที่ข้อมูลการค้าของจีนที่อ่อนแอเกินคาดก็ส่งผลต่อความเชื่อมั่นเช่นกัน

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของประเทศ ไต้หวัน และ ฮ่องกง ทำผลงานแย่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ร่วง ลง 1.6% และ 1.8% ตามลำดับ ท่ามกลางความกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น

นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.5% ในขณะที่ KOSPI ของเกาหลีใต้ลดลง 1.8%

ความเชื่อมั่นที่มีต่อตลาดเอเชียได้รับแรงกระแทกจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างมากในเดือนสิงหาคม ดุลการค้า ของจีนลดลงอย่างมากจากเดือนก่อน โดยทั้ง การส่งออก และ การนำเข้า หดตัวลงอย่างมาก

ซึ่งผลที่อ่อนแอนั้นสืบเนื่องมาจากการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจครั้งใหม่ที่เกี่ยวข้องกับโควิดและการขาดแคลนพลังงานที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงเดือนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนวางเดิมพันต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากรัฐบาลเพื่อสนับสนุนการเติบโต ทั้งดัชนีหุ้นบลูชิพ CSI 300 และดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต มีการซื้อขายที่ทรงตัว

เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางการปักกิ่งกล่าวว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสที่สามเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่แทบจะไม่ขยายตัวในช่วงสามเดือนถึงเดือนมิถุนายน

ความอ่อนแอในจีนเป็นลางไม่ดีสำหรับเศรษฐกิจเอเชียที่ต้องพึ่งพาประเทศจีนในฐานะคู่ค้า ประเทศต่างๆ เช่น ไต้หวัน ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ มองว่าจีนเป็นปลายทางการส่งออกที่สำคัญ

หุ้นออสเตรเลียร่วงลง 1.5% โดย BHP Group Ltd (ASX:BHP) และ Rio Tinto Ltd (ASX:RIO)ได้รับผลกระทบมากสุดใน S&P/ASX 200 ทั้งสองพึ่งพาจีนเพราะเป็นตลาดสำหรับแร่เหล็กและการส่งออก ทองแดง

ข้อมูลในวันพุธยังแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจของออสเตรเลีย ขยายตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อยในไตรมาสที่สอง ท่ามกลางแรงกดดันจากเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ตลาดหุ้นเอเชียถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และ ผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ หลังจากข้อมูลแสดงให้เห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งเกินคาดในภาคบริการของสหรัฐฯ

ตัวเลข ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐมีโอกาสมากขึ้นในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว

ขณะนี้เทรดเดอร์เชื่อว่ามี โอกาสมากกว่า 70% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 จุดพื้นฐานในเดือนกันยายน

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย