โดย Peter Nurse
Investing.com -- หุ้นสหรัฐฯ เปิดสูงขึ้นในวันพุธ โดยดีดตัวขึ้นหลังจากการขาดทุนในเซสชั่นก่อนหน้า ก่อนการเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมภาคบริการ รวมถึงรายได้ของบริษัทรายไตรมาสที่ประกาศต่อเนื่อง
เมื่อเวลา 07:00 น. ET (1100 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 120 จุดหรือ 0.4% สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 ซื้อขาย 15 จุด หรือสูงกว่า 0.4% และ { {8874|สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100}} เพิ่มขึ้น 40 จุดหรือ 0.3%
ดัชนีวอลล์สตรีทหลักปิดตัวลงเมื่อวันอังคาร โดย ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลงกว่า 400 จุดหรือ 1.2% ถูกกดดันจากความกังวลเรื่องความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่ถดถอยหลังจากประธานสภา แนนซี่ เปโลซี เยือนไต้หวัน
นอกจากนี้ ปัจจัยกดดันตลาดให้ร่วงลงในวันอังคารยังมีความคิดเห็นที่ไม่ค่อยดีนักจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเรื่อง อัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นอีกมาก ซึ่งบ่งชี้ว่าจำเป็นต้องมีการเพิ่มขึ้นอีกเพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ แม้จะต้องเผชิญกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอีกก็ตาม
การเปิดเผยข้อมูล กิจกรรมทางธุรกิจนอกภาคการผลิตจากสถาบัน ISM ประจำเดือนกรกฎาคม เวลา 10.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1400 GMT) คาดว่าจะให้หลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาคบริการที่ชะลอตัว ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุดของเศรษฐกิจสหรัฐ
เมื่อหันไปสู่ภาคธุรกิจ ผลประกอบการรายไตรมาสยังคงประกาศอย่างต่อเนื่องในวันพุธ ขณะที่บริษัทที่รายงานผลประกอบการหลังปิดตลาดในวันอังคารก็จะอยู่ในโฟกัสเช่นกัน
CVS Health (NYSE:CVS) ปรับเพิ่มคาดการณ์ กำไร ทั้งปีในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากความแข็งแกร่งในธุรกิจประกันภัยและยอดขายเทสติ้งโควิด-19ที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์ ขณะที่ Regeneron (NASDAQ:REGN) รายงาน ลดลงอย่างมากในผลกำไรรายไตรมาส โดยได้รับผลกระทบจากยอดขายแอนติบอดีค็อกเทลโควิด-19 ที่ไม่สดใส
นอกจากนี้ PayPal (NASDAQ:PYPL) จะได้รับความสนใจหลังจากนักลงทุนที่เคลื่อนไหวอย่าง Elliott Management ระบุว่าบริษัทถือหุ้นมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ในบริษัทฟินเทค ซึ่งได้เพิ่มคำแนะนำด้านกำไรประจำปีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาด้วย
Match Group (NASDAQ:MTCH) หุ้นลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนการขายหลังจากผู้ให้บริการแอปหาคู่ให้การคาดการณ์รายได้ รายไตรมาส ที่อ่อนแอ และผู้ผลิตชิป Advanced Micro Devices (NASDAQ:{{8274) |AMD}}) ผิดหวังกับรายได้ไตรมาสที่สาม ในขณะที่ Airbnb (NASDAQ:ABNB) พลาดประมาณการจากการจอง แม้ในขณะที่ไตรมาสที่สอง ยอดขาย เพิ่มขึ้น 58% จากปีก่อนหน้า
ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันพุธหลังจากสมาชิก OPEC+ คาซัคสถานกล่าวว่ากลุ่มอาจต้องเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตลาดตึงตัวเกินไป
องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือกลุ่มที่รู้จักกันในชื่อ OPEC+ ได้ยกเลิกการลดอุปทานน้ำมันในยุคการระบาดใหญ่ไปแล้ว และคาดว่าจะคงการผลิตไว้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากความกลัวภาวะถดถอยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสมาชิกส่วนใหญ่ที่ประสบปัญหาเป้าหมายการผลิตในปัจจุบัน
นอกจากนี้ จับตาการประกาศ ตัวเลขสินค้าคงคลังของรัฐบาล หลังจากที่หน่วยงานอุตสาหกรรม สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันอังคาร แสดงให้เห็นว่าน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นราว 2.2 ล้านบาร์เรลในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจหลังจากร่วงลงราว 4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน
ภายในเวลา 07:00 น. ET สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ ลดลง 1% ที่ 93.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ลดลง 1.1% ที่ 99.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ ลดลง 0.6% มาอยู่ที่ 1,779.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่ EUR/USD ซื้อขายสูงขึ้น 0.3% ที่ 1.0189