โดย Daniel Shvartsman
Investing.com – ดัชนีหลักของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในการซื้อขายเมื่อวันจันทร์ โดย Nasdaq ร่วงลงหลังจากที่ทำกำไรในสัปดาห์ก่อน
เมื่อเวลา 14:15 น. ET Nasdaq Composite ลดลง 75 จุดหรือ 0.65% S&P 500 ลดลง 0.2% ในขณะ ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 0.15%
เหตุการณ์นี้มาพร้อมกับจำนวนของเทรดเดอร์ที่เข้าตลาดเพื่อสร้างแนวต้านเพิ่มขึ้น หรืออาจจะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลซื้อขายที่ชะลอตัวลงเนื่องจากเข้าสู่หน้าร้อน Michael Wilson แห่ง Morgan Stanley ได้กล่าวเช้านี้ว่า "เรายังคงเชื่อว่าการแรลลี่ในระยะเวลาอันใกล้นี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าการตีกลับของตลาดหมีโดยมีระดับต่ำสุดกว่าในอนาคต "โดยอ้างถึงกระแสข่าวจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น นโยบายการเงินของเฟด อัตราเงินเฟ้อ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น และการปรับลดรายรับของบริษัท
กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ที่ถูกเทขายได้กระตุ้นให้เกิดมุมองที่ดีในสัปดาห์ที่แล้วว่าบางทีเฟดอาจจะเจอเหตุผลที่จะชะลอการออกนโยบายกระชับการเงินที่ดุดัน ราคา น้ำมันดิบ WTI และ น้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.8% และ 1.6% ตามลำดับ ณ เวลา 14:20 น. ET ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าข้าวสาลีสหรัฐฯ ปิดการซื้อขายลดลงที่ 1.9% และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าฝ้าย เบอร์ 2 ปิดตัวลงที่ 4% เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือนที่ 94.05 เซนต์ต่อปอนด์ น้ำมันยังอยู่ในความสนใจเนื่องจาก EIA ยังคงมีปัญหาจากฮาร์ดแวร์ ทำให้รายงานเผยแพร่ล่าช้า
หุ้นกลุ่มพลังงานเป็นผู้นำในการซื้อขายช่วงบ่ายวันจันทร์ เนื่องจากได้ฟื้นตัวจากช่วงที่สูญเสียกำไรหลายครั้ง Valero Energy (NYSE:VLO) เพิ่มขึ้น 7.2% เมื่อเวลา 14:30 น. ET ขณะที่ Devon Energy (NYSE:DVN) เพิ่มขึ้น 7% ทำให้ S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น Electronic Arts (NASDAQ:EA) และ Etsy (NASDAQ:ETSY) เป็นผู้นำแดนลบ โดยซื้อขายที่ลดลง 4.3% โดยที่ Etsy โดนปรับลดเกรดในตลาดเนื่องจาก "แนวโน้มกำไรที่แย่ลงในระยะสั้น"
Nike (NYSE:NKE) ซึ่งซื้อขายลดลง 2% ในการซื้อขายช่วงปลายวันจันทร์และอยู่ไม่สูงกว่าระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์มากนัก โดยปัจจัยหลักอยู่ที่ ห่วงโซ่อุปทาน และนโยบายโควิดของจีนที่กำลังคุกคามแนวโน้มปัจจุบัน
ด้านสกุลเงินดิจิตอล เรายังคงเห็นการถอยกลับหลังจากที่มีการปรับขึ้น โดย บิทคอยน์ ลดลง 1.5% ในการซื้อขายช่วงบ่ายและ Ethereum ลดลง 1%