โดย Oliver Gray
Investing.com - สัญญาซื้อขายล้วงหน้าหุ้นสหรัฐฯ ขยับสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำของวันอาทิตย์ หลังจากที่ดัชนีชี้หลักปิดตัวสัปดาห์ที่แล้วต่ำลง เนื่องด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงอย่างดื้อรั้นและนโยบายของธนาคารกลางที่เข้มงวดขึ้นทำให้เกิดการเทขายในตลาดในวงกว้าง
นักลงทุนกำลังจับตาบริษัทค้าปลีกรายใหญ่เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทยังคงดำเนินต่อไปในสัปดาห์นี้ บริษัทที่รายงาน ได้แก่ Costco Wholesale Corp (NASDAQ:COST), Macy's Inc (NYSE:M), Nordstrom Inc (NYSE:JWN), Best Buy Co Inc (NYSE:BBY), Zoom Video Communications Inc (NASDAQ:ZM) และ NVIDIA Corporation (NASDAQ:NVDA)
ในด้านข้อมูล รายได้ส่วนบุคคล และ การใช้จ่าย มีแนวโน้มว่าจะลดลงทั้ง การบริโภคในครัวเรือน และ {{ecl -61||ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index)}} ขณะที่ทั้ง ภาคการผลิต และ ภาคบริการ PMI คาดว่าจะชะลอตัวในเดือนนี้
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างก็หวังว่า การประชุมธนาคารกลาง ในวันพุธสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกว่าผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางจะสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อสูงสุดในรอบสี่ทศวรรษที่ก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกได้หรือไม่
การเผยแพร่ข้อมูลอื่น ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ ประมาณการ GDPใหม่, ผลกำไรของบริษัท, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคมิชิแกน, ดัชนีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเฟดชิคาโก, รายงานดัชนีภาคการผลิตของรัฐริชมอนด์, ยอดขายบ้านใหม่ และ ยอดขายบ้านที่รอการปิดการขาย เช่นเดียวกับ {{ecl -86||สินค้าคงทน}}
ในช่วงการซื้อขายปกติของวันศุกร์ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่ม 8.77 จุดเป็น 31,261.9 จุด S&P 500 เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยที่ 3,901.36 และ NASDAQ Composite ขยับต่ำลง 0.3%. สำหรับสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 2.8% ปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน โดยทำสถิติการขาดทุนติดต่อกัน 8 สัปดาห์แรกนับตั้งแต่ปี 1923 ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.8% ถือเป็นสถิติการขาดทุนที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2001 และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.2% จนจบ ที่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2020