โดย Gina Lee
Investing.com – หุ้นเอเชียแปซิฟิกร่วงลงในเช้าวันอังคารเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นลดลง 1.14% เมื่อเวลา 22:10 น. ET (2:10 น. GMT) และ{{37426|KOSPI}เกาหลีใต้ ลดลง 1.40%
S&P/ASX 200 ในออสเตรเลียลดลง 1.47%
ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงร่วงลง 2.52%
เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนลดลง 0.01% ในขณะที่ ดัชนีส่วนประกอบ SZSE ลดลง 1.07% เซี่ยงไฮ้กำลังเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ขณะที่จีนย้ำนโยบายปลอดโควิด
นักวิเคราะห์ของ ANZ บอกกับรอยเตอร์สว่า “แนวคิดเรื่องการกระชับการเงินที่ผ่อนคลายและอ่อนโยนได้หายไปแล้ว”
“ความจริงก็คือธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่สามารถควบคุมอุปทานของเศรษฐกิจในระยะสั้น ตราบใดที่ตัวชี้วัดสำคัญอยู่ในเกม เช่น อัตราการมีส่วนร่วมของกำลังแรงงานอยู่ในระดับต่ำ และการส่งออกของจีนที่ชะลอตัวลง ความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่ยังรอคอยการพลิกกลับ” ANZ กล่าว
ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
ธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 1% ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2000 ธนาคารแห่งอังกฤษได้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็น 1% หลังการประชุมการตัดสินใจด้านนโยบายในวันพฤหัสบดี ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009
ในชั่วข้ามคืน หุ้นสหรัฐฯ ถูกเทขายออกต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ในด้านข้อมูล นักลงทุนกำลังรอ ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ในวันพุธ เช่นเดียวกับ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และ จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งจะครบกำหนดในวันพฤหัสบดี
ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์ ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแอตแลนต้า จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดแห่งนิวยอร์ก และผู้ว่าการเฟด คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ จะขึ้นกล่าวในวันนี้