รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำผลงานแย่สุดในรอบปี ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ปรับตัวลง

เผยแพร่ 04/02/2565 06:38
อัพเดท 04/02/2565 08:45
© Reuters.

โดย Oliver Gray 

Investing.com - ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายกันสูงขึ้นในช่วงต้นของวันศุกร์ โดย Nasdaq Composite ทำผลงานแย่ที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปีเนื่องจากนักลงทุนยังคงประเมินรายงานผลประกอบการไตรมาสที่สี่ของบริษัทต่าง ๆ ในตลาดหุ้น

ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 518.17 จุดหรือ 1.4% สู่ 35,111.16, S&P 500 ลดลง 2.4% สู่ 4,477.44 และ Nasdaq Composite ลดลง 3.7% สู่ 13,878.82

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.55%, สัญญาซื้อขายล่วงหน้า S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.17% และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 1.96%

ในบรรดาหุ้นที่นักลงทุนควรจับตา หุ้น Meta Platforms Inc (NASDAQ:FB) ร่วงลง 26.39% หลังจากที่บริษัทประกาศ ผลกำไรรายไตรมาส ของบริษัทออกมาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ Spotify Technology SA (NYSE:SPOT) ลดลง 16.7% หลังจาก ตัวเลขรายไตรมาส ล่าสุดของบริษัทแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของสมาชิกระดับพรีเมียมชะลอตัวลง

Block Inc (NYSE:SQ) ลดลง 11%

Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT) ลดลง 3.9%

Apple Inc (NASDAQ:AAPL) ลดลง 1.67% 

Netflix Inc (NASDAQ:NFLX) ลดลง 5.56% และ Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) ลดลง 3.32%

ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปรับตัวลงเช่นกัน Tesla Inc (NASDAQ:TSLA) ลดลง 1.6%, Rivian Automotive Inc (NASDAQ:RIVN) ร่วงลง 6.16% และ Lucid Group Inc (NASDAQ: LCID) ลดลง 2.64%

หุ้นของบริษัท Honeywell International Inc (NASDAQ:HON) ร่วงลง 7.6% หลังจากที่บริษัท รายงานผลประกอบการ ออกมามีรายได้ต่ำ

นอกเวลาทำการ Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) พุ่งขึ้น 14.17% หลังจากรายงาน ผลประกอบการ ดีกว่าที่คาดไว้โดย EPS มาที่ 5.80 ดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ 3.57 ดอลลาร์ รายรับ 137.4 พันล้านดอลลาร์เทียบกับที่คาดไว้ 137.6 พันล้านดอลลาร์ บริษัทยังรายงานกำไรเกือบ 1.2 พันล้านดอลลาร์จากการลงทุนในบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า Rivian

Snap Inc (NYSE:SNAP) ก็พุ่งขึ้น 57.06% หลังจาก รายงาน กำไรสุทธิรายไตรมาสแรก ขณะที่กำไรต่อหุ้นมาที่ 22 เซนต์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 10 เซ็นต์ และรายรับที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดไว้ 1.2 พันล้านดอลลาร์

Ford Motor Company (NYSE:F) ลดลง 4.12% หลังจากที่ รายงาน อ่อนแอกว่าผลประกอบการไตรมาสสี่ที่คาดการณ์ไว้ รายรับต่อหุ้นที่ 26 เซนต์เทียบกับคาดการ์ 45 เซนต์ ในขณะที่รายรับอยู่ที่ 35.3 พันล้านดอลลาร์เทียบกับที่คาดการณ์ 35.5 พันล้านดอลลาร์

ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทน พันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 1.836%

สำหรับข้อมูลที่นักลงทุนควรติดตาม ตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน จะรายงานในช่วงถัดไป

ความคิดเห็นล่าสุด

เฉียบ
เฉียบ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย