โดย Gina Lee
Investing.com – ตลาดหุ้นในเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ หลังจากนักลงทุนรับทราบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายล่าสุดของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ขณะที่ความพยายามอย่างต่อเนื่องในการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิดยังคงเป็นจุดโฟกัสในช่วงท้ายสัปดาห์นี้
ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.05% เมื่อเวลา 22:01 น. ET (2:01 น. GMT) และ ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.29%
ในออสเตรเลีย ดัชนี ASX 200 เพิ่มขึ้น 0.32% และ ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงเพิ่มขึ้น 1.50%
ดัชนี Shanghai Composite ของจีนเพิ่มขึ้น 0.57% ขณะที่ ดัชนี Shenzhen Component ขยับลง 0.15% ส่วนดัชนี Nasdaq Golden Dragon China ร่วงลงหลังจากราคาหุ้นของบรรดาบริษัทเทคโนโลยีของจีนปรับตัวลง ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอดูขั้นตอนต่อไปในด้านกฎระเบียบของจีนเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเอกชน ตลอดจนการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปเพื่อรักษาระดับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
นอกจากนี้ จีนยังได้นำน้ำมันดิบสำรองออกมาใช้ เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลง
ในขณะเดียวกัน ECB ได้ทำการ ตัดสินใจเชิงนโยบาย ไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี โดยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0% แต่ระบุด้วยว่า จะเริ่มชะลอโครงการจัดซื้อฉุกเฉินจากสถานการณ์โควิดในไตรมาสที่สี่ของปีนี้
อย่างไรก็ตาม คริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ให้การรับรองกับตลาดว่า “จะยังไม่ปรับลดการซื้อสินทรัพย์” ในช่วงที่โควิดกำลังเป็นภัยคุกคามต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นักลงทุนบางส่วนเห็นด้วยกับจุดยืนของ ECB
“หนทางฟื้นคืนสู่สภาวะเศรษฐกิจที่เป็นปกติมากกว่านี้ ยังคงอีกยาวไกล และอาจจะมีการชะลอตัวลงบ้าง ซึ่งการชะลอตัวที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด อาจนำไปสู่ความผันผวนของตลาดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” แบร็ด แม็คมิลลัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Commonwealth Financial Network กล่าวในรายงาน
ทางด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ยังไม่ได้ประกาศว่าเขาจะเสนอชื่อนายเจอโรม พาวเวลล์ ให้เป็นประธานเฟดอีกครั้งเป็นวาระที่สองหรือไม่
ในส่วนของข้อมูลที่เผยแพร่ในวันพฤหัสบดีนั้น เผยให้เห็นว่ามีชาวอเมริกันยื่นคำขอ สวัสดิการว่างงานครั้งแรก จำนวน 310,000 รายตลอดทั้งสัปดาห์ ตัวเลขนี้ต่ำกว่าทั้งตัวเลข 335,000 ที่คาดการณ์โดย Investing.com และตัวเลข 345,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า