โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com –ตลาดหุ้นไทย (SET) ปิดภาคเช้าวันนี้ เวลา 12.30 น. ดัชนีปรับตัวลดลง 0.62 จุด แตะ 1,532.09 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,394.67 ล้านบาท โดยหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 517 หลักทรัพย์ ลดลง 1,042 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 529 หลักทรัพย์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) ชี้ หุ้นไทยมีความผันผวน โดยสะท้อนจิตวิทยาการลงทุนที่ค่อนข้างเปราะบาง ในระหว่างที่สถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่ดีขึ้น
สำหรับในวันนี้ คาดตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแนวรับ 1,520 – 1,525 จุด จากความกังวลยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศที่พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ที่ 2.3 หมื่นรายต่อวัน รวมถึงการชุมนุมทางการเมืองขับไล่รัฐบาล และกระแสการลงทุนต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 1.06 แสนล้านบาทเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งกดดันต่อทิศทางดัชนี ดังนั้น ยังคงแนะนำลงทุนในกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เช่น กลุ่มส่งออกและกลุ่มงบในไตรมาส 2 ปีงบ 2564 เติบโต
สำหรับหุ้น 4 ตัวที่โบรกแนะ น่าลงทุนในวันนี้ ได้แก่
1. III ประกาศงบในไตรมา 2 ปีงบ 2564 ออกมาดีกว่าคาด ส่งผลให้กำไรในไตรมาส 1 ปีงบ 2564 เติบโต +171% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 164 ล้านบาท จากการเติบโตของทุกธุรกิจ ส่งผลให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564 และ 2565 ขึ้นจากเดิม 80% และ 54% ตามลำดับ เป็น 316 ล้านบาท, +143% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และ +23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาเป็น 387 ล้านบาทในปี 2565
2. GUNKUL รายงานกำไรปกติในไตรมาส 2 ปีงบ 2564 ที่ 515 ล้านบาท เติบโต +62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และ +9% เมื่อเทียบรายไตรมาส ดีกว่าคาดถึง 27% จากส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วมที่ดีกว่าคาด และการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 3 ปีงบ 2564 คาดเติบโตทั้งเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาและเมื่อเทียบรายไตรมาส จากผลบวกตามฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังลม
3. DTAC แนะนำให้ขายทำกำไรเล่นรอบที่บริเวณ 40.00 บาท +/- ล่าสุดราคาหุ้นปรับตัวลงเข้าใกล้แนวรับบริเวณ 33.00 บาท ดังนั้น เราประเมินว่าเป็นบริเวณที่น่าสนใจเพื่อทยอยสะสมอีกครั้ง
4. AP โดยภาพทางเทคนิค แนวต้าน 8.00 บาท แนวรับ 7.75 บาท และสต็อปลอสต์ หากต่ำกว่า 7.50 บาท แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง 2 ปีงบ 2564 ได้แรงหนุนจากโครงการแนวราบ ขณะที่ราคาหุ้นมี Valuation ไม่แพง ที่ระดับ PER2564 เพียง 5.7 เท่า และให้ Dividend Yield 6% ต่อปี