โดย Gina Lee
Investing.com - หุ้นเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่เปิดลบในเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนเห็นอัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาดูการหารือเรื่องการลดสัดส่วนสินทรัพย์ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากแรงกดดันด้านราคาและรอข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตจาก สถาบันบริหารอุปทาน (ISM) ที่จะเผยแพร่ในวันอังคาร เพื่อประเมินการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ดัชนี Shanghai Composite ของจีนลดลง 0.23% เมื่อเวลา 22:45 น. ET (2:45 AM GMT) ในขณะที่ ดัชนี Shenzhen Component เพิ่มขึ้น 0.29% ข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เท่ากับ 51 และ {{ecl-831 || ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนอกภาคการผลิต} } เท่ากับ 55 ในเดือนพฤษภาคม แม้ว่าตัวเลขทั้งสองจะยังคงสูงกว่าระดับ 50 ที่บ่งชี้ถึงการเติบโต แต่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย
เงินหยวนนอกประเทศอ่อนค่าลงหลังจากนายเฉิง สงเชิ่ง อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสถิติของธนาคารแห่งประชาชนจีนกล่าวว่า เงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นเพียงชั่วคราว ในขณะที่ธนาคารกลางก็กล่าวว่า เงินหยวนอาจอ่อนค่าลงในอนาคต
ดัชนี Hang Seng ของฮ่องกง ลดลง 0.29%
ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่น ลดลง 0.66% ข้อมูลที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ระบุว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ในเดือนเมษายนขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสูงกว่า 1.7% ของเดือนมีนาคม แต่ต่ำกว่า 4.1% ในการคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com ส่วน ยอดค้าปลีก เดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 12.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ต่ำกว่า 15.3% จากการคาดการณ์ที่จัดทำโดย Investing.com
ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.06%
ในออสเตรเลีย ดัชนี ASX 200 ขยับลง 0.14% เนื่องจากนักลงทุนรอการตัดสินใจด้านนโยบายของ ธนาคารแห่งประเทศออสเตรเลีย ในวันอังคารนี้
SETไทยเปิดตลาดช่วงเช้าปรับตัวลงเล็กน้อย -0.11% อยู่ 1,580.62
นักลงทุนยังคงกังวลว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก จะนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจะบีบให้ธนาคารกลางลดการกระตุ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
“ความกังวลเรื่องเงินเฟ้ออาจจะยังมีผลกระทบต่อไปอีกในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ส่วนผลกระทบจากการขึ้นราคาสินค้าโภคภัณฑ์และปัญหาคอขวดยังคงตามมา แต่ขณะนี้มีสัญญาณอีกสองสามประการที่บ่งชี้ว่า ปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นเป็นการชั่วคราว” เชน โอลิเวอร์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ AMP Capital กล่าวในรายงาน
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐที่มีกำหนดจะแถลงการณ์ในวันพุธ ได้แก่ แพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานเฟดฟิลาเดลเฟีย ชาร์ลส์ อีแวนส์ประธานเฟดชิคาโก ราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแอตแลนต้าและโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดดัลลัส นี่เป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับเจ้าหน้าที่ในการพูดคุยเกี่ยวกับนโยบายก่อนช่วงปิดทำการและก่อนการประชุมครั้งต่อไปของเฟดในวันที่ 16 มิ.ย.
ในส่วนของข้อมูลอื่น ๆ ขณะนี้นักลงทุนกำลังรอข้อมูลของสหรัฐฯในเดือนพฤษภาคม รวมถึง ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และ อัตราการว่างงาน ซึ่งจะเผยแพร่ในวันศุกร์
นักลงทุนยังคงคาดว่า เฟดจะเริ่มการเจรจาต่อไปจนกว่าจะมีการปรับเปลี่ยนที่มีนัยสำคัญในตลาดแรงงาน
“มีการคาดว่า ตลาดแรงงานยังห่างไกลจากการฟื้นตัว…ในความคิดของเรา ข้อมูลไม่น่าจะโน้มน้าวให้นายพาวเวล ประธานเฟด เชื่อได้ว่ามีความคืบหน้ามากพอที่จะเริ่มส่งสัญญาณให้ลดสัดส่วนการซื้อสินทรัพย์ลงได้” เควิน คัมมินส์ นักเศรษฐศาสตร์ของ NatWest Market กล่าวกับรอยเตอร์