Investing.com - ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยการฟื้นตัวหลังการเลือกตั้งยังคงดำเนินต่อไป และยังได้รับแรงหนุนจากการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ Bitcoin ซื้อขายอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และ TSMC ยักษ์ใหญ่ด้านการผลิตชิปของโลกมีสัญญาณของยอดขายที่ชะลอตัวลง
1. เฟดปรับลดดอกเบี้ยและส่งสัญญาณ dovish เพิ่มเติม
ธนาคารกลางสหรัฐได้ ผ่อนคลายนโยบายการเงิน หลังจากการประชุมกำหนดนโยบายครั้งล่าสุดในวันพฤหัสบดีตามคาด และส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ 25 จุดพื้นฐานมาอยู่ที่ช่วง 4.50%-4.75% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งที่สองติดต่อกัน เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายยังคงเดินหน้าปรับนโยบายให้เป็นปกติท่ามกลางแรงกดดันเงินเฟ้อที่ชะลอตัว
ในการแถลงข่าวหลังการประชุม เจอร์โรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ระบุว่าเศรษฐกิจอาจทำผลงานได้ดีกว่าที่คาดไว้ในปีหน้า และอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในเส้นทางกลับสู่เป้าหมายที่ 2%
สิ่งนี้ส่งผลให้เทรดเดอร์คาดการณ์ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 25 จุดพื้นฐานในเดือนหน้า ขณะเดียวกัน สัญญาฟิวเจอร์สของอัตราดอกเบี้ยเงินทุนของรัฐบาลกลางยังบ่งชี้ถึงการลดลงอีก 67 จุดพื้นฐานในปี 2025
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังต้องติดตามว่าพาวเวลล์จะยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ในปีหน้า เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่ง
ทรัมป์ได้แต่งตั้งพาวเวลล์ในปี 2018 แต่โจมตีเฟดหลายครั้งในระหว่างการดำรงตำแหน่งครั้งแรกเนื่องจากนโยบายของเฟด ซึ่งทำให้พาวเวลล์ถูกถามเมื่อวันพฤหัสบดีว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งหากทรัมป์ขอหรือไม่ ซึ่งเขาตอบปฏิเสธและกล่าวว่าเขาไม่สามารถถูกถอดถอนตามกฎหมายได้
2. หุ้นฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้น และมีแนวโน้มทำกำไรในสัปดาห์นี้
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่วันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนในวอลล์สตรีทต่างยังคงย่อยข่าวการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด และตั้งใจที่จะสานต่อการฟื้นตัวครั้งใหญ่หลังการเลือกตั้ง
ณ เวลา 15:30 น. (GMT+7) ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 43 จุด หรือ 0.1% S&P 500 ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 6 จุด หรือ 0.1% และ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ขยับขึ้น 15 จุด หรือ 0.1%
ซึ่งดัชนีหลักทั้งสามได้ทำสถิติสูงสุดระหว่างวันในเซสชั่นก่อนหน้า สานต่อการปรับตัวขึ้นของตลาดหลังจากการชนะการเลือกตั้งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยดัชนี ดาวโจนส์ และ S&P 500 ปรับตัวขึ้นอย่างดีที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022
การตัดสินใจของเฟดในการลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งก็ยังช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นบวก ขณะที่เฟดส่งสัญญาณว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ 2%
ดัชนีหลักทั้งสามมีแนวโน้มที่จะทำกำไรอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์นี้ โดย S&P 500 และ DJIA เพิ่มขึ้นประมาณ 4% ขณะที่ Nasdaq นั้นเป็นผู้นำ โดยเพิ่มขึ้นถึง 5.6% ก่อนตลาดปิดเมื่อวันพฤหัสบดี
3. หุ้น TSMC ชะลอตัว
Taiwan Semiconductor Manufacturing (NYSE:TSM) รายงานยอดขายที่แข็งแกร่งในเดือนตุลาคม แต่การเติบโตของยอดขายกลับเริ่มชะลอตัว ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าความต้องการที่อาจลดลง
รายได้ของ TSMC ในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 314.24 พันล้านดอลลาร์ไต้หวัน (9.80 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 24.8% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 29.2% จากเดือนตุลาคม 2023
อย่างไรก็ตาม การเติบโตเมื่อเทียบแบบปีต่อปีกลับชะลอตัวลงอย่างมากจากที่เติบโตกว่า 40% ในเดือนก่อนหน้า
TSMC ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปตามสัญญารายใหญ่ที่สุดของโลก ทำกำไรอย่างโดดเด่นในไตรมาสเดือนกันยายน เนื่องจากความต้องการชิปขั้นสูงจากภาคปัญญาประดิษฐ์ยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้ บริษัทยังระบุว่าแนวโน้มในปีหน้าจะดีขึ้นจากความต้องการ AI ที่เพิ่มขึ้น
แต่ TSMC ก็ยังเตือนว่าความต้องการชิปจากภาคส่วนอื่น ๆ โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคกำลังอ่อนตัวลง และมีสัญญาณการฟื้นตัวที่น้อยมาก
TSMC ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของห่วงโซ่อุปทานการผลิตชิป และเป็นผู้จัดส่งรายสำคัญให้กับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของสหรัฐ เช่น Nvidia (NASDAQ:NVDA) และ Apple (NASDAQ:AAPL)
4. Bitcoin มองไปยังระดับสูงสุดใหม่
Bitcoin หรือคริปโตเคอร์เรนซีที่เป็นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ปรับตัวขึ้นในวันนี้และยังคงอยู่ใกล้กับระดับสูงสุดที่ทำได้ในสัปดาห์นี้หลังจากชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024
ณ เวลา 15:30 น. (GMT+7) Bitcoin ปรับตัวขึ้น 1% มาเป็น 75,852.0 ดอลลาร์ ใกล้กับระดับสูงสุดที่ 76,837.8 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในวันพฤหัสบดี
สกุลเงินดิจิตอลนี้พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งหลังการชนะของทรัมป์ เนื่องจากตลาดคาดว่าทรัมป์จะออกนโยบายที่เป็นมิตรต่อคริปโตมากขึ้นตามที่เขาเคยให้คำมั่นไว้ในการรณรงค์หาเสียง
ทรัมป์ได้ให้คำมั่นว่าจะทำให้สหรัฐเป็น “ศูนย์กลางคริปโตของโลก” โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่านโยบายของเขาจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์เพื่อการลงทุนและสนับสนุนการยอมรับจากนักลงทุนสถาบัน
Bitcoin ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นอีก เนื่องจากราคายังอยู่ในช่วงสำคัญของวัฏจักรตลาดขาขึ้น ตามที่นักวิเคราะห์ Peter Brandt คาดการณ์ ระดับสำคัญที่ควรจับตามองต่อไปคือราคาที่คาดว่าจะอยู่ระหว่าง 130,000 ถึง 150,000 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2024
5. ราคาน้ำมันดิบเตรียมทำกำไรรายสัปดาห์อย่างแข็งแกร่ง
ราคาน้ำมันดิบขยับลดลงในวันนี้ แต่ยังคงมีแนวโน้มทำกำไรอย่างมากในสัปดาห์นี้ หลังได้รับแรงหนุนจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันชั้นนำที่ชะลอแผนการเพิ่มกำลังการผลิต รวมถึงโอกาสที่อุปทานอาจหยุดชะงักมากขึ้น
ณ เวลา 15:30 น. น้ำมันบดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 1.2% มาเป็น 71.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ลดลง 1% มาอยู่ที่ 74.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำหรับสัปดาห์นี้ สัญญาทั้งสองคาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3%
ตลาดได้รับการสนับสนุนในสัปดาห์นี้จากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือที่รู้จักกันในชื่อ OPEC+ ซึ่งระบุว่าจะชะลอแผนการเพิ่มกำลังการผลิตที่จะเริ่มในเดือนธันวาคมออกไป รวมถึงการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายที่กำลังจะมีขึ้นจากฝ่ายบริหารของทรัมป์ เช่น การคว่ำบาตรที่เข้มงวดขึ้นต่ออิหร่านและเวเนซุเอลา
ความระมัดระวังต่อพายุเฮอริเคนราฟาเอลก็ยังช่วยหนุนราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ แต่พายุที่ทำให้การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐหยุดชะงักไปประมาณ 400,000 บาร์เรลต่อวันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวออกจากพื้นที่สำคัญในช่วงสุดสัปดาห์