InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (8 ม.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนซึมซับข้อมูลแรงงานที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อให้เขามีอำนาจในการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,635.20 จุด เพิ่มขึ้น 106.84 จุด หรือ +0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,918.25 จุด เพิ่มขึ้น 9.22 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,478.88 จุด ลดลง 10.80 จุด หรือ -0.06%
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในช่วงแรก ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก โดยบรรยากาศการซื้อขายในระหว่างวันถูกกดดันจากรายงานของสำนักข่าว CNN ซึ่งระบุว่า หลังการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. ทรัมป์อาจใช้คำสั่งประธานาธิบดีตามกฎหมายอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (International Economic Emergency Powers Act) หรือ IEEPA เพื่อประกาศใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า โดย IEEPA จะให้อำนาจประธานาธิบดีในการควบคุมการนำเข้าสินค้าในยามที่สหรัฐฯ ประสบวิกฤตการณ์
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 17-18 ธ.ค. โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และเจ้าหน้าที่เฟดเตรียมรับมือกับผลกระทบจากนโยบายต่าง ๆ ที่คาดว่าจะมาจากคณะบริหารของทรัมป์
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค. และคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค.หรืออาจจะเป็นเดือนมิ.ย.
นักลงทุนซึมซับข้อมูลแรงงานที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันของสหรัฐฯ โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 122,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. 2567 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 136,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 201,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2567
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ดีดตัวขึ้น 0.53% ส่วนหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.74%
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูงปรับตัวผันผวน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ (Microsoft) บวก 0.52% ขณะที่หุ้นอัลฟาเบท (Alphabet) และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ปรับตัวลง 0.79% และ 1.16% ตามลำดับ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.2%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันนี้ (9 ม.ค.) เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์