ดาวโจนส์พลิกดีดบวก ขานรับ "วอลเลอร์" หนุนเฟดลดดอกเบี้ยปีนี้

เผยแพร่ 09/01/2568 07:17
© Reuters.  ดาวโจนส์พลิกดีดบวก ขานรับ "วอลเลอร์" หนุนเฟดลดดอกเบี้ยปีนี้
DJI
-
DOW
-
US10YT=X
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวสู่แดนบวก ขานรับถ้อยแถลงของนายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเป็นสมาชิกถาวรของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ซึ่งกล่าวสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้

ณ เวลา 23.45 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 42,580.31 จุด บวก 51.95 จุด หรือ 0.12%

นายวอลเลอร์กล่าวว่า เขาเห็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง และจะยังคงเป็นเช่นนั้นต่อไป แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อได้ดีดตัวขึ้นในระยะนี้ แต่ก็เป็นเพียงบางรายการเท่านั้น เช่น บริการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย แต่ราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ได้ส่งสัญญาณปรับตัวลง

"การที่มีความคืบหน้าน้อยเกี่ยวกับการปรับตัวลงของเงินเฟ้อได้ทำให้มีการคาดการณ์เกี่ยวกับการชะลอหรือยุติการปรับลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่าเงินเฟ้อจะยังคงมีความคืบหน้าไปสู่เป้าหมาย 2% ของเราในระยะกลาง และเป็นเรื่องที่เหมาะสมสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงต่อไป" นายวอลเลอร์กล่าว
นายวอลเลอร์กล่าวเสริมว่า "หากภาวะเศรษฐกิจปรับตัวสอดคล้องกับมุมมองของผม ผมก็จะสนับสนุนให้เฟดยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ ส่วนอัตราการปรับลดดอกเบี้ยก็จะขึ้นอยู่กับว่าเรามีความคืบหน้าในการลดเงินเฟ้อได้มากแค่ไหน รวมทั้งการรักษาตลาดแรงงานไม่ให้อ่อนแอลง"

ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 200 จุดในช่วงแรก หลังมีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อให้เขามีอำนาจในการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า

สำนักข่าว CNN รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า หลังการสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค. นายทรัมป์อาจใช้คำสั่งประธานาธิบดีตามกฎหมายอำนาจฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (International Economic Emergency Powers Act) หรือ IEEPA เพื่อประกาศใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษี โดย IEEPA จะให้อำนาจประธานาธิบดีในการควบคุมการนำเข้าสินค้าในยามที่สหรัฐประสบวิกฤตการณ์

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่านายทรัมป์จะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติหรือไม่ ขณะที่คณะทำงานของนายทรัมป์กำลังพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การใช้บางมาตราของกฎหมายการค้าของสหรัฐ

ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังถูกกดดันจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.7% ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปี 2568 และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจจะต้องรอนานถึงกลางปีนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนวิตกว่าจะส่งผลให้เงินเฟ้อดีดตัวขึ้น และทำให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น แม้ว่าในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 17-18 ธ.ค.2567 เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค.

นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.และพ.ค. ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนมิ.ย. และคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวในการประชุมที่เหลือจนสิ้นปี 2568

นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.2%

นอกจากนี้ ตลาดจับตารายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 17-18 ธ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้

ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ เพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการถึงแก่อสัญกรรมของอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์

ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กมักปิดทำการเพื่อให้เกียรติต่ออดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่ถึงแก่อสัญกรรม โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนธ.ค.2561 ขณะที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ เฮอร์เบิร์ต วอล์คเกอร์ บุช ถึงแก่อสัญกรรม

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย