InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (7 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่นักลงทุนประเมินการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งบ่งชี้ภาพรวมที่ไร้ทิศทางของภาวะเศรษฐกิจยูโรโซน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 514.67 จุด เพิ่มขึ้น 1.65 จุด หรือ +0.32%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,489.35 จุด เพิ่มขึ้น 43.66 จุด หรือ +0.59%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,340.57 จุด เพิ่มขึ้น 124.38 จุด หรือ +0.62% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,245.28 จุด ลดลง 4.38 จุด หรือ -0.05%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.8% ขณะที่หุ้นฟรอนต์ไลน์ซึ่งเป็นบริษัทขนส่งน้ำมันของนอร์เวย์ พุ่งขึ้น 7.4%
หุ้นกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มสินค้าและบริการด้านอุตสาหกรรม ต่างก็ปรับตัวขึ้น 0.4%
นักลงทุนคาดการณ์เกี่ยวกับผลกระทบของเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะเกิดขึ้น
ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนเพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. แม้เป็นไปตามคาด แต่ก็ทำให้นักลงทุนหันมาให้ความสนใจกับภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น
ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนม.ค. แต่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยลดลง 0.6%
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและวัสดุลดลง 0.4%บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ ขณะที่ ECB จะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30 ม.ค.นี้
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนธ.ค. ขณะที่เงินเฟ้อของสวิตเซอร์แลนด์ลดลงอีกครั้ง ซึ่งทำให้คาดว่าธนาคารกลางสวิสจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
เยอรมนีรายงานเงินเฟ้อรายปีเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. และรัฐมนตรีเศรษฐกิจของสเปนยืนยันว่า การขยายตัวของ GDP ยังคงทรงตัวในไตรมาส 4/2567
ดอยซ์แบงก์ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นยุโรปโดยระบุถึงบรรยากาศทางการเมืองที่ดีขึ้น, ภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่เอื้ออำนวย และแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนในปีนี้