InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (24 ธ.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงานนำตลาดปรับตัวขึ้น ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบางก่อนวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 503.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.62 จุด หรือ +0.32%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,282.69 จุด เพิ่มขึ้น 10.37 จุด หรือ +0.14% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,136.99 จุด เพิ่มขึ้น 34.27 จุด หรือ +0.42% ส่วนตลาดหุ้นเยอรมนีปิดทำการในวันคริสต์มาสอีฟ
กลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงบริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่ในยุโรป ปรับตัวขึ้น 0.6% ขณะที่กลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.4% ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น
อีกเพียงไม่กี่วันก่อนถึงวันปีใหม่ นักลงทุนต่างจับตามองความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค. โดยทรัมป์ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศสำคัญ ๆ รวมถึงจีนและเม็กซิโก
นโยบายของทรัมป์ถูกมองว่าจะก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และได้ถูกนำมาพิจารณาในแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แล้ว ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันในปีนี้ ได้ส่งสัญญาณถึงความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์
แม้ทำสถิติสูงสุดได้ในปีนี้ แต่ดัชนี STOXX 600 เพิ่มขึ้นเพียงประมาณ 5% ในปี 2567 โดยมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากมาตรการที่ทรัมป์เสนอ การใช้จ่ายที่ซบเซาของจีน ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแอ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดภายใต้การบริหารของทรัมป์ เป็นกลุ่มที่ปรับตัวได้แย่ที่สุดในปีนี้ ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมกลาโหมและกลุ่มธนาคารปรับตัวได้ดีที่สุด