ลด 50%! ชนะตลาดในปี 2025 ด้วย InvestingProรับส่วนลด

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งเกือบ 300 จุด ขานรับ "สก็อตต์ เบสเซนต์" ว่าที่ขุนคลังสหรัฐ

เผยแพร่ 26/11/2567 02:38
© Reuters.  ดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งเกือบ 300 จุด ขานรับ "สก็อตต์ เบสเซนต์" ว่าที่ขุนคลังสหรัฐ
US500
-
DJI
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้นเกือบ 300 จุด ขานรับข่าวที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เสนอชื่อนายสก็อตต์ เบสเซนต์ ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ "คีย์สแควร์ กรุ๊ป" ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ของสหรัฐ

ณ เวลา 19.14 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 298 จุด หรือ 0.67% สู่ระดับ 44,693 จุด

นักลงทุนมองว่านายเบสเซนต์จะดำเนินมาตรการที่เอื้อต่อตลาดหุ้น และจะทำให้เศรษฐกิจและตลาดการเงินของสหรัฐมีเสถียรภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ นายเบสเซนต์สนับสนุนการจัดเก็บภาษีนำเข้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป และผ่อนคลายกฎระเบียบเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจสหรัฐ รวมทั้งทำการควบคุมเงินเฟ้อ และผลักดันการฟื้นตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และความเป็นอิสระในอุตสาหกรรมพลังงาน

"ถ้าคุณกำลังคิดถึงเรื่องของตลาดและเรื่องที่มีความสำคัญ คุณเบสเซนต์ถือว่ามีความฉลาดหลักแหลมมาก มีเพียงไม่กี่คนที่จะรู้เรื่องของตลาดมากกว่าคุณเบสเซนต์" แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าว
ด้านนายเอ็ด มิลส์ นักวิเคราะห์จาก Raymond James Washington กล่าวว่า "ประสบการณ์ของคุณเบสเซนต์ในฐานะนักลงทุนด้านมหภาคจะทำให้เขามีความสามารถในการเข้าใจผลกระทบจากการใช้นโยบายการค้า การตั้งกำแพงภาษี การลดอัตราภาษีเงินได้ และการผ่อนคลายกฎระเบียบของคุณทรัมป์ ซึ่งถ้าคุณเบสเซนต์สามารถชะลอหรือจำกัดการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีแบบครอบคลุมทุกรายการ ขณะที่ทำการขยายการปรับลดภาษีเงินได้และผ่อนคลายกฎระเบียบ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมสหรัฐและหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ สิ่งนี้ก็จะได้รับการขานรับจากตลาด"

ในฐานะรัฐมนตรีคลัง นายเบสเซนต์ วัย 62 ปี จะเป็นทั้งผู้ดูแลงบประมาณของสหรัฐ และผู้ที่จะผลักดันวาระทางเศรษฐกิจของนายทรัมป์

นายเบสเซนต์ถือเป็นผู้คร่ำหวอดในแวดวงตลาดหุ้นวอลล์สตรีท และเป็นผู้สนับสนุนเป้าหมายเศรษฐกิจของนายทรัมป์ และการเข้ามารับตำแหน่งของเขาถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของสหรัฐขณะที่กำลังเผชิญภาวะขาดดุลงบประมาณและหนี้จำนวนมาก

หากได้รับการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ นายเบสเซนต์จะขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ต่อจากนางเจเน็ต เยลเลน โดยเขาจะเป็นรัฐมนตรีคลังในรัฐบาลของนายทรัมป์ ซึ่งจะเข้าสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 20 ม.ค.2568

ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.1% ในเดือนก.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนก.ย.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.7% ในเดือนก.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือนก.ย.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย