Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.37 แข็งค่ารอบ 18 เดือน ให้กรอบวันนี้ 33.30-33.50 จับตา Flow-ราคาทอง

เผยแพร่ 13/09/2567 16:16
© Reuters.  ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.37 แข็งค่ารอบ 18 เดือน ให้กรอบวันนี้ 33.30-33.50 จับตา Flow-ราคาทอง
USD/THB
-

InfoQuest - นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.37 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.74 บาท/ดอลลาร์ เช้านี้เงินบาทเปิดตลาดทำสถิติต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 18 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.พ.66 เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบทุกสกุลเงินหลัก หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่างไปจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นทำนิวไฮทะลุ 2,550 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนปัจจัยในประเทศน่าจะมีแรงกดดันให้บาทแข็งค่าเพิ่มเติมได้อีกจากการส่งออกทองคำ และต้องดูกระแสเงินทุนต่าง ประเทศ (Fund Flow) ที่ไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น "บาทแข็งค่าลงมาทำ New low นับตั้งแต่เดือน ก.พ.66 หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจาก ECB ส่งสัญญาณจะปรับลดดอกเบี้ย แบบครั้งเว้นครั้ง ไม่ได้ลดต่อเนื่องแบบ Fed" นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.30 - 33.50 บาท/ดอลลาร์ SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 33.2925 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 142.36 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 142.67 เยน/ดอลลาร์ - เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1080 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1015 ดอลลาร์/ยูโร - อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 33.743 บาท/ดอลลาร์ - "SCBEIC ไทยพาณิชย์" ส่งสัญญาณเตือน หากไม่ต้องการให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงรุนแรงแบบ Hard Landing ต้องใช้ทั้ง มาตรการการเงินและการคลัง โดยรัฐต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นร่วมกับการแก้หนี้เสีย และการลดดอกเบี้ยของ กนง.หลังพบ เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ขาลง กำลังซื้อลด คนจนไม่มีเงินใช้ คนรวยไม่ใช้เงิน แบงก์ไม่ปล่อยกู้ หวั่นปี 68 เศรษฐกิจโตแค่ 1.9% - "ม.หอการค้าไทย" ชี้ ศก.ไทยฟื้นตัวช้า ยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้น ศก.ของรัฐบาลใหม่ที่ชัดเจน ฉุดดัชนีเชื่อมั่นผู้ บริโภค "ส.ค."ลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 6 ต่ำสุดรอบ 13 เดือน ระบุหากเงินดิจิทัลแจกตามไทม์ไลน์จะช่วย ศก.ขยายตัว - อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าสำหรับการส่งออกภาย ใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2567 มีมูลค่าการใช้สิทธิภายใต้ความตกลง FTA รวม 40,281.22 ล้าน เหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนการใช้สิทธิ 82.10% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ได้รับสิทธิฯ สินค้าเกษตรที่น่าสนใจที่มีอัตราการใช้สิทธิฯ และ การส่งออกเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก คือ สตาร์ชทำจากมันสำปะหลัง เพิ่มขึ้น 51.69% จากช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2566 ที่มีมูลค่าการ ใช้สิทธิ 439.62 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 666.87 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเดียวกันของปี 2567 - ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า กรรมการ ECB มีมติเป็นเอกฉันท์ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตาม การคาดการณ์ของตลาด และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย. พร้อม ประกาศปรับลดประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซนในปี 2567-2569 พร้อมกับเตือนว่าการขยายตัว ของเศรษฐกิจในยูโรโซนจะอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 230,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 227,000 ราย - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัว ขึ้น 1.7% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.8% จากระดับ 2.1% ในเดือนก.ค. - กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า เป็นการเหมาะสมสำหรับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะเริ่มผ่อน คลายนโยบายการเงินในการประชุมสัปดาห์หน้า เนื่องจากความเสี่ยงในช่วงขาขึ้นของเงินเฟ้อได้ลดน้อยลงแล้ว ก่อนหน้านี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.50% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรง งานที่อ่อนแอในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ความคาดหวังดังกล่าวลดน้อยลงหลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงกว่า คาดเมื่อวันพุธ - FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 73% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการ ประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. และให้น้ำหนัก 27% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในวันดังกล่าว - สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดี (12 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการ คาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอ ตัวของเศรษฐกิจ - ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ ได้แก่ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนก.ย.จาก มหาวิทยาลัยมิชิแกน

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย