InfoQuest - นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้คาดแกว่งตัวออกด้านข้างในกรอบแคบเป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน หลังตลาดสหรัฐปิดทำการวันจันทร์ที่ 2 ก.ย.เนื่องในวันแรงงาน และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนส.ค.ของจีน ยังเป็นภาพที่ต่ำกว่าระดับ 50 สะท้อนเศรษฐกิจยังเปราะบางส่งผลกดดันต่อการลงทุน
ขณะที่คาดว่าจะได้แรงหนุนจากปัจจัยในประเทศช่วยประคองตลาด โดยเฉพาะการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เดินหน้าได้เร็ว คาดจะเห็นบทสรุปได้ภายในสัปดาห์นี้ และน่าจะมีการแถลงนโยบายเศรษฐกิจได้ในวันที่ 10-12 ก.ย.นี้ ส่วนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วาระ 2 และ 3 ในระหว่างวันที่ 3-5 ก.ย.นี้ คาดผ่านไปได้ด้วยดี การเบิกจ่ายงบไม่สะดุด ซึ่งปัจจัยดังกล่าวคาดเข้ามาช่วยประคองตลาดให้ปรับตัวลงจำกัด
ให้แนวรับไว้ที่ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,360 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 2 ก.ย. เนื่องในวันแรงงาน
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,745.76 จุด เพิ่มขึ้น 44.89 จุด หรือ +0.12%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,809.17 จุด ลดลง 1.87 จุด หรือ -0.07% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,665.93 จุด ลดลง 26.04 จุด หรือ -0.15%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ก.ย.) 1,353.64 จุด ลดลง 5.43 จุด (-0.40%) มูลค่าซื้อขาย 33,189.68 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,523.17 ล้านบาท (2 ก.ย.)
- ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันจันทร์ที่ 2 ก.ย. เนื่องในวันแรงงาน
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 ก.ย.) อยู่ที่ 2.13 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.28 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 34.10-34.30 รอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง
- "อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร" นายกฯ ลั่น! รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่นิ่งแล้ว ทูลเกล้าฯ สัปดาห์นี้ มั่นใจไม่มียื่นร้องคุณสมบัติ ฟาก "ภูมิธรรม" รองนายกฯ ยันแถลงนโยบายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ก.ย. นี้
- คลังรับไม่ได้ลงทุนไทยวูบแรง รถสันดาปเจอปัญหาอีวี และหนี้เสีย ทำอัตราปฏิเสธสินเชื่อสูง แนะกระตุ้นไตรมาส 3 ให้กลับมา ด้าน "ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย" KKP เปิดข้อมูลไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ให้จีน ไร้การเพิ่มมูลค่า เหตุเข้าวงซัพพลายเชนจีนราคาถูกไม่ได้ แนะรัฐบาลแก้เกม เพิ่มสัดส่วนใช้วัตถุดิบจากไทย แนะปกป้องยานยนต์แรงงาน 8 แสนราย
- "บล.เกียรตินาคินภัทร" มองผลการเลือกตั้งสหรัฐ หาก "ทรัมป์" เป็นประธานาธิบดีกระทบไทยมากสุด จากสงครามการค้ากับจีนจ่อประทุก ชี้ 3 ผลกระทบจากจีน สะเทือน "4 อุตสาหกรรมใหญ่ โลกเก่า" ของไทย ทั้ง "รถยนต์-เหล็ก-ฮาร์ดดิสไดร์ฟ-ปิโตรเคมี" ขณะที่ "ตลาดหุ้นไทย" รับผลทางอ้อม 10 ปี กำไรบจ.-ผลตอบแทน "ไม่ไปไหน" แนะรัฐเร่งหามาตรการปกป้องอุตฯ ที่เป็นกลยุทธ์หลักของไทย
- "สุริยะ" ยันเดินหน้าบิ๊กโปรเจกต์ "แลนด์บริดจ์" เกิดในรัฐบาลยุคนี้ เปิดไทม์ไลน์เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติร่าง พ.ร.บ.SEC ปีนี้ เผย DP World ทุนดูไบ ขอจัดตั้งคณะทำงานร่วมเพื่อศึกษาโครงการอย่างละเอียด ตอกย้ำสัญญาณเอกชนสนใจร่วมทุน
- ในปี 67 กนอ.ประสบความสำเร็จในการขายหรือเช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมได้ถึง 6,174 ไร่ ( ต.ค.66-ก.ค.67) ถือเป็นสถิติใหม่ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ซึ่งยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์นั้น สะท้อนถึงความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมที่มีอยู่สูงโดยความสำเร็จที่เกิดขึ้นนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถของภาคส่วนต่างๆ ของกนอ.และพันธมิตรในการดึงดูดนักลงทุน รวมถึงเป็นแรงผลักดันให้ กนอ. พัฒนาประสิทธิภาพการบริการ และการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน และบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาประเทศ
- วิปรัฐบาลมั่นใจงบปี 68 วาระ 2-3 ผ่านได้สบาย เหตุมี 320 สส.หนุน ด้าน "สรวงศ์" รับเอา ปชป. ที่เคยค้าน "ดิจิทัลวอลเล็ต" เข้ามาอาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการ เผย 158 สส.เสนอคำแปรญัตติร่าง พ.ร.บ. งบปี 68 คาดโหวตวาระ 3 วันที่ 5 ก.ย. เวลา 3 ทุ่ม "ศิริกัญญา" ลั่น "ปชน." เตรียมถล่มงบ 68 ทั้ง "ดิจิทัลวอลเล็ต-ซอฟต์พาวเวอร์-กลาโหม" ซัดจัดสรรแบบสะเปะสะปะ ยัน 143 สส.ปชน.โหวตไม่เห็นชอบ กมธ. งบวุฒิสภามั่นใจทันกรอบเวลา
*หุ้นเด่นวันนี้
- CHG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.60 บาท โมเมนตัมกำไร H2/67 คาดกลับมาเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะไตรมาส 3/67 ที่เข้า High Season ส่วนประเด็นกังวลเรื่องเม็ดเงินประกันสังคมในส่วน RW>2 ลุ้นสมาคมโรงพยาบาลฯเจรจากับประกันสังคมเพิ่มงบประมาณส่วนดังกล่าวในอนาคต เรายังคาดกำไรปี 67 ที่ 1.2 พันลบ. +15% y-y ราคาหุ้นปัจจุบันยังเทรด Valuation ไม่แพง โดย PER อยู่ทีเพียง 24 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่กว่า 30 เท่า
- BBIK (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 41.75 บาท งานในมือ ณ สิ้นไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 905 ล้านบาท ทำจุดสูงสุดใหม่ สะท้อนถึงอุปสงค์ที่กำลังฟื้นกลับมาแรง ผสานกับงบประมาณภาครัฐฯปี 68 ที่จะอนุมัติในเดือน ต.ค. คาดไม่ล่าช้าเหมือนปีก่อน จะหนุนให้กำไรครึ่งปีหลังฟื้นเด่น ราคาหุ้นอยู่ในระดับที่ไม่แพง โดยปัจจุบันเทรดที่ระดับ PE 18 เท่า ผสานกำไรที่คาดผ่านจุดต่ำสุดในช่วง Q2/67 ไปแล้ว เป็นโอกาสในการทยอยสะสม
- BCP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 44.20บาท เรามีมุมมองเชิงบวกผลการประชุมที่คาดโอกาสการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ คงเป้า EBITDA ที่ 1แสนล้านบาทภายในปี 73 นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเชิงบวกในแง่การเพิ่มประสิทธิภาพการ synergy ระหว่าง BCP และ BSRC โดยมีเป้าหมาย 5 พันล้านบาทในปี 67 และ โครงการ SAF ที่คาดว่าจะเสร็จตามแผนในเดือน มี.ค.68 โดยจะเริ่มดำเนินการลงนามสัญญาซื้อขายกับลูกค้ารายสำคัญในเดือนหน้า