InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วงลงกว่า 100 จุด ส่งสัญญาณการปรับฐานของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในคืนนี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายวานนี้
ณ เวลา 20.00 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 120 จุด หรือ 0.29% สู่ระดับ 41,215 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้บวก 65.44 จุด หรือ 0.16% สู่ระดับ 41,240.52 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ของบริษัท Nvidia ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นมาตรวัดผลงานของบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี และแนวโน้มของธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI)
นอกจากนี้ ตลาดจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 2.5% เช่นกันในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. จากระดับ 0.1% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.7% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.6% ในเดือนมิ.ย.
เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.ค. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนมิ.ย.