InfoQuest - นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์ กรอบจำกัด ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวผสมผสาน เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เช้าวันนี้ และผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ ทำให้เกิดการชะลอการลงทุนในระยะสั้น
อย่างไรก็ตามมองตลาดสัปดาห์นี้ยังอยู่ในโหมดฟื้นตัวได้ จากงบบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาเป็นไปตามคาดถึงดีกว่าคาด อย่าง PTTEP งบดีกว่าคาด และมีเงินปันผลที่น่าสนใจ คาดช่วยประคองราคาหุ้นไม่ให้ไหลลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง รวมถึงงบ HMPRO ก็ออกมาตามคาด เป็นต้น
นอกจากนี้วานนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติเงื่อนไขกองทุน TESG ใหม่ คาดหวังว่าจะหนุนเม็ดเงินลงทุนราว 20,000-30,000 ล้านบาท เข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้
ให้แนวรับที่ 1,300-1,290 จุด และแนวต้าน 1,320-1,330 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (30 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,743.33 จุด เพิ่มขึ้น 203.40 จุด หรือ +0.50%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,436.44 จุด ลดลง 27.10 จุด หรือ -0.50% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,147.42 จุด ลดลง 222.78 จุด หรือ -1.28%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,140.77 จุด ลดลง 385.18 จุด หรือ -1.0%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 17,070.86 จุด เพิ่มขึ้น 67.95 จุด หรือ +0.40% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 2,877.54 จุด ลดลง 1.76 จุด หรือ -0.06%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ก.ค.) 1,3078.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.88 จุด (+0.07%) มูลค่าซื้อขายราว 45,553.19 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 84.49 ล้านบาท (30 ก.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. (30 ก.ค.) ร่วงลง 1.08 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 74.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ก.ค.) อยู่ที่ 5.25 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.87 แข็งค่าตามเยน รอลุ้นผลประชุม BOJ วันนี้-จับตา Flow ช่วงสิ้นเดือน
- ครม.ไฟเขียวเกณฑ์ใหม่ "กองทุน Thai ESG" เพิ่มวงเงินลดหย่อนเป็น 3 แสนบาท/คน/ปี ลดเวลาถือครองจาก 8 ปี เหลือ 5 ปี ก.ล.ต. มั่นใจฟื้น "ตลาดหุ้นไทย" แม้กำหนดสัดส่วน ลงทุนได้ "หุ้น" ไม่เกิน 80% หนุน "เม็ดเงินใหม่" เข้ามา ปีนี้ 2-3 หมื่นล้าน เผย "คลัง" เดินหน้าผลักดันจัดตั้ง "กองทุนวายุภักษ์" หวังระดมเงินอีก "แสนล้าน" คาดรัฐเสียรายได้ปีละ 1.3-1.4 หมื่นล้าน
- จับตาปัญหาเศรษฐกิจไทยซบเซาฟื้นตัวไม่ทั่วถึง ส่งผลกระทบกำลังซื้อประชาชนลุกลามจากระดับล่างสู่ระดับกลางมากขึ้น ฉุดรั้งธุรกิจสายป่านสั้นเจอปัญหาขาดสภาพคล่อง สมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกผวาปัญหาหนี้เสีย เข้าสู่โหมดการทำธุรกิจด้วย "เงินสด" เป็นหลัก ช่วยคู่ค้าไม่ต้องแบกสต๊อกยาว-ลดการสั่งซื้อขั้นต่ำ ยักษ์ค้าปลีกค้าส่งอุดรฯ เผยซัพพลายเออร์คุมเข้มหนี้ค้างชำระ "หั่นเครดิตเทอม" กลุ่มผู้ผลิตวัสดุอสังหาฯ เผยตลาดวิกฤตเจอหนี้ค้างยาว
- สมาคมอสังหาฯ รวมตัวส่งหนังสือถึงผู้ว่าการแบงก์ชาติ จี้ยกเลิก LTV ชั่วคราว ชี้มาตรการบังคับเงินดาวน์ 20% ซื้อบ้านหลังที่สอง ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย ชี้ผู้บริโภคยุคใหม่ซื้อหลังที่สองเพราะความจำเป็น โดยเน้นซื้อใกล้ที่ทำงานหรือโรงเรียนลูก อย่ามองด้านลบว่าเก็งกำไร ด้านสมาคมบ้านจัดสรรเผยผลสำรวจคนไทยต้องการซื้อบ้าน 2 หลัง ยอดพุ่ง 30% จี้รัฐบาลออกวงเงินกู้ดอกเบี้ยถูกอุ้มคนซื้อบ้าน เหมือนที่เคยทำมาในอดีต
- ตลท. ได้ยกระดับความเข้มข้นในการประเมินความยั่งยืน เซต อีเอสจีเรตติ้งสู่ระดับสากล เน้นการประเมินจากข้อมูลที่บริษัทจดทะเบียน (บจ.) เปิดเผยสู่สาธารณะ ซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้ประเมินกว่า 8,000 หลักทรัพย์ทั่วโลก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดความสนใจผู้ลงทุนเปรียบเทียบผลประเมินกับบริษัททั้งในและต่างประเทศด้วยมาตรฐานเดียวกัน
- ก.ล.ต. ศึกษานำเงินค่าปรับตั้งกองทุนเยียวยานักลงทุน คาดใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี เหตุต้องแก้ไขกฎหมาย "พรอนงค์ บุษราตระกูล" นำเทคโนโลยียกระดับบังคับใช้กฎหมาย ระบบตรวจจับผิดปกติงานบัญชีคาดเสร็จปีนี้ จ่อพัฒนาระบบคาดการณ์จับทุจริตแต่งบัญชีในปี 2568
- นายกฯ ยันดิจิทัลวอลเล็ต เดินตามกฎหมาย สุจริตโปร่งใส จุลพันธ์ย้ำแอป "ทางรัฐ" ปลอดภัยสูงสุด เผยมีคนโหลดแล้วกว่า 10 ล้านคน ดีเดย์เริ่มลงทะเบียน 08.00 น. วันที่ 1 ส.ค. ลงทะเบียนผ่านแอปไม่ได้ "ดีอี" ตั้งจุด Walk-in ให้คำปรึกษากว่า 5,000 จุด ส่วนคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนรอ ก.ย. ได้ลงทะเบียนแน่
- ครม.อนุมัติสัญญาบริหารท่าเทียบเรือ เอ 0 กับแอลซีเอ็มที ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้สัญญาเก่าที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 2547 มีผลบังคับใช้ต่อไปจนสิ้นสุดสัญญา ปี 2577 ยืนยันสัญญาเอกชนร่วมงานรัฐมูลค่าเกิน 1,000 ล้าน ผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุนแล้ว ให้ดำเนินการต่อจนจบอายุสัญญาเดิม 30 ปี
*หุ้นเด่นวันนี้
- บมจ. ไนซ์ คอล (NCP) เริ่มซื้อขายวันนี้ในตลาดหลักทรัพย์ mai ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 360 ล้านบาท โดยราคา IPO หุ้นละ 2.00 บาท NCP ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้า และให้บริการทำการตลาดแบบตรงผ่านช่องทางการขายทางโทรศัพท์
- AAV (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.00 บาท คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/67 ยังเป็นบวก จาก Load Factor และราคาค่าตั๋วที่แข็งแกร่ง แม้ว่าจะมีการบันทึก FX loss แนวโน้มยังคงเร่งตัวขึ้นในช่วงที่เหลือของปี จากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวสูงขึ้นตามฤดูกาล ผสานราคาน้ำมันเครื่องบินในเดือน ก.ค. ที่ย่อตัวลงต่อเนื่อง ช่วยผ่อนคลายเรื่องต้นทุน
- BBL (อินโนเวสท์เอกซ์) แนะนำราคาซื้อวันนี้ไม่เกิน 136 บาท ราคาหุ้นปรับลง 7%YTD เป็นโอกาสเข้าซื้อ มองว่ามีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นจาก 1) การตั้งสำรอง (credit cost) ลดลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ 2) การเติบโตของสินเชื่อที่โดดเด่น 3) NIM ที่แข็งแกร่ง และ 4) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลง ยังคงเลือกเป็นหุ้นเด่นกลุ่มธนาคาร
- PTTEP (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 174 บาท บริษัทรายงานผลประกอบการไตรมาส 2/67ที่ 23.9 พันลบ. ปรับเพิ่มขึ้น 28% QoQ และ 14% YoY โดยผลประกอบการที่รายงานออกมาดีกว่าที่เราคาด 11%ส่งผลให้ครึ่งแรกของปีบริษัททำกำไรได้แล้ว 42.7พันลบ. หรือคิดเป็น 55%ของประมานกำไรทั้งปีของที่เราคาด มองหุ้นมีความน่าสนใจด้วยรายงานผลประกอบการแข็งแกร่งเติบโตได้ดีทั้ง QoQและ YoY อีกทั้งบริษัทประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 4.5บาท/หุ้น คิดเป็นกว่าอัตราปันผลที่ 3.2%