InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ในวันพุธ (8 พ.ค.) และปิดที่เหนือระดับ 39,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,056.39 จุด เพิ่มขึ้น 172.13 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,187.67 จุด ลดลง 0.03 จุด หรือ -0.00% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,302.76 จุด ลดลง 29.80 จุด หรือ -0.18%
ดัชนีดาวโจนส์ทำสถิติปิดในแดนบวกติดต่อกันยาวนานที่สุดในปี 2567 ขานรับความหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 67% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 54% ในการสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ส่วนเจ้าหน้าที่เฟดที่ได้ออกมาแสดงความเห็นล่าสุดเมื่อวานนี้ ยังคงมีมุมมองคล้ายกับที่เคยส่งสัญญาณไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยนางซูซาน คอลลินส์ ประธานเฟดสาขาบอสตันกล่าวว่า นโยบายการเงินของเฟดในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะช่วยให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงจนทำให้เงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
อย่างไรก็ดี แม้ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกอย่างต่อเนื่อง แต่การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้ฉุดดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดลบ โดยดัชนี S&P500 ปิดขยับลงเล็กน้อยหลังจากปิดในแดนบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ และดัชนี Nasdaq ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2
แอนโทนี ซากลิมบีน หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดของบริษัท Ameriprise กล่าวว่า นักลงทุนอาจจะไม่ต้องการเข้าซื้อหุ้นเป็นวงกว้าง จนกว่าจะเห็นตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันที่ 14 พ.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 พ.ค.
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มวัสดุปรับตัวลง 0.90% และ 0.44% ตามลำดับ ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 1.05% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นวิสทรา คอร์ป (Vistra Corp) ที่ทะยานขึ้นกว่า 9% หลังบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
หุ้นอูเบอร์ ร่วงลง 5.7% และเป็นหุ้นในดัชนี S&P500 ที่ดิ่งลงมากที่สุด หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุน 654 ล้านดอลลาร์ หรือ 32 เซนต์/หุ้น ในไตรมาส 1/2567 สูงกว่าระดับ 157 ล้านดอลลาร์ หรือ 8 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ บริษัทยังคาดการณ์ว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/2567 อาจจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้
หุ้นเทสลา ปรับตัวลง 1.7% หลังจากสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะอัยการของสหรัฐกำลังตรวจสอบว่าเทสลามีพฤติกรรมชี้นำนักลงทุนและผู้บริโภคในทางที่ผิดหรือไม่ เกี่ยวกับความสามารถของระบบขับขี่อัตโนมัติของรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา
หุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูงเช่นหุ้นอินวิเดีย หุ้นอะเมซอน และหุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวลงราว 0.2% - 1.1% โดยถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
หุ้นอินเทล ร่วงลง 2.2% หลังจากอินเทลได้แสดงความกังวลว่ายอดขายของบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลสหรัฐสั่งเพิกถอนใบอนุญาตของอินเทลในการส่งออกสินค้าต่าง ๆ เช่น ชิป ให้กับจีน