Investing.com - ตลาดทั่วโลกเปิดทำการด้วยผลการดำเนินงานที่หลากหลายในวันนี้ เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ดึงหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง และนักลงทุนคต่างก็ละทิ้งความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ในเวลา 10.30 a.m. AEST (00.30 a.m. GMT) ดัชนี S&P/ASX 200 ขยับขึ้น 0.2% KOSPI 200 พุ่งขึ้น 1.3% ขณะที่ Nikkei 225 ลดลง 0.3%
ช่วงต้นปี 2024 หุ้นแรลลี่ขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยมีสาเหตุหลักมาจากความคาดหวังต่อธนาคารกลางสหรัฐที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตามในเดือนเมษายนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทำให้ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางคนอื่น ๆ ตั้งคำถามกับสมมติฐานดังกล่าว
ซึ่งผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสูงขึ้นและราคาลดลง ซึ่งกดดันหุ้นแต่ S&P 500 และ Nasdaq ก็ยังคงเป็นสีเขียวตลอดทั้งปี บ่งชี้ว่านักลงทุนยังไม่พร้อมที่จะละทิ้งตลาดกระทิง
ทางด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 2.9% เป็น 87.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ทองคำ ปรับลง 0.9% เป็น 2,361.02 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งขึ้นเล็กน้อยจาก 63.99 เป็น 64.33 เซนต์สหรัฐ
ในตลาดเอเชีย หุ้นจีนปิดสูงขึ้นหลังได้แรงหนุนจากหุ้นขนาดเล็ก แต่ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงก็ยังคงปิดทรงตัว ขณะที่หุ้นอินเดียและญี่ปุ่นปิดลดลงเนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของเฟดและความตึงเครียดในตะวันออกกลาง
หุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธ โดย Stoxx 600 ขยับขึ้น 0.06% เป็น 498.52 จุด CAC 40 ปรับขึ้น 0.6% เป็น 7,981.51 จุดและ DAX ของเยอรมนี ขยับขึ้น 0.02% เป็น 17,770.02 จุด FTSE 100 หยุดการขาดทุนไว้แค่สองวันและปิดเพิ่มขึ้น 0.35% เนื่องจากตัวเลข CPI ของสหราชอาณาจักรลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2021