🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 68.66 จุด จากแรงขายทำกำไรหลังข้อมูลจ้างงานเพิ่ม

เผยแพร่ 11/03/2567 12:55
(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 68.66 จุด จากแรงขายทำกำไรหลังข้อมูลจ้างงานเพิ่ม
US500
-
NVDA
-
MRVL
-
GAP
-
IXIC
-

InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (8 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลงหลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวัน โดยหุ้นกลุ่มชิปปรับตัวลงท่ามกลางแรงเทขายทำกำไร ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าการจ้างงานใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาด

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,722.69 จุด ลดลง 68.66 จุด หรือ -0.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,123.69 จุด ลดลง 33.67 จุดหรือ -0.65% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 16,085.11 จุด ลดลง 188.26 จุด หรือ -1.16%

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.93%, ดัชนี S&P500 ติดลบ 0.26% และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 1.17%

ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวลงในวันศุกร์ หลังแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดฟิลาเดลเฟียปิดร่วงลง 4% หลังแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน

หุ้นอินวิเดีย บริษัทผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ปิดร่วงลง 5.6% หลังจากพุ่งขึ้นมากกว่า 5% ในการซื้อขายช่วงเช้า และหลังจากปิดบวกต่อเนื่องนาน 6 วัน

หุ้นบรอดคอม ร่วง 7% หลังการคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปีต่ำกว่าที่นักลงทุนคาดไว้ และหุ้นมาร์เวลล์ เทคโนโลยี ร่วง 11.4% หลังคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาสแรกต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ อันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ

ในช่วงเช้านั้น ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดบวกหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด 275,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. มากกว่าที่มีการคาดกันไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง

ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นแตะ 3.9% ในเดือนก.พ. หลังจากทรงตัวที่ระดับ 3.7% เป็นเวลา 3 เดือนติดต่อกัน ขณะที่อัตราการขยายตัวของค่าแรงชะลอลงเหลือ 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า ตลาดเผชิญแรงขายทำกำไรหลังปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลงมากที่สุด 1.8% ตามมาด้วยกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ร่วง 0.8%

ส่วนหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บวกขึ้นมากที่สุด 1.1% ตามมาด้วยกลุ่มพลังงานที่บวก 0.4%

หุ้นแก๊ป (Gap) บริษัทค้าปลีกเสื้อผ้า ปิดพุ่งขึ้น 8.2% สวนทางตลาด หลังเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2566 สูงกว่าคาด

ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐ อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และยอดค้าปลีก เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย