InfoQuest - ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนส่งแรงซื้อเก็งกำไรเข้าตลาด หลังราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนักวานนี้
ณ เวลา 22.24 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 37,589.70 จุด บวก 159.51 จุด หรือ 0.43%
อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 0.18% ในวันนี้ และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของหุ้นบริษัทแอปเปิ้ล อิงค์
ทั้งนี้ หุ้นแอปเปิ้ลร่วงลงกว่า 1% ในวันนี้ และทรุดตัวลงกว่า 4% ในสัปดาห์นี้ หลังบาร์เคลย์สประกาศปรับลดอันดับความน่าลงทุน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับยอดขาย iPhone 15 ที่ชะลอตัว
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงเกือบ 300 จุดวานนี้ ขณะที่นักลงทุนไม่มั่นใจต่อแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังการกล่าวถ้อยแถลงของนายโทมัส บาร์กิน ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ และการเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประจำวันที่ 12-13 ธ.ค.
นักลงทุนลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.2567
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 63.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค.2567 หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักมากถึง 72.8%
ทั้งนี้ นายบาร์กินส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อชะลอตัวลง และระบุว่า ยังคงมีความเสี่ยงที่ว่าภารกิจของเฟดในการสกัดเงินเฟ้ออาจจะยังไม่สิ้นสุดลง
"อัตราดอกเบี้ยระยะยาวได้ปรับตัวลงในระยะนี้ และจะกระตุ้นอุปสงค์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย โดยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่สูงกว่าเป้าหมาย สิ่งนี้จึงทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปยังคงเป็นทางเลือกของเฟด" นายบาร์กินกล่าวส่วนรายงานการประชุม FOMC ประจำวันที่ 12-13 ธ.ค.ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2567 แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาที่ชัดเจนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุม FOMC ในเดือนธ.ค. ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ในการตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25-5.50% และกรรมการเฟดคาดการณ์ว่า จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรวม 0.75% ภายในสิ้นปี 2567
อย่างไรก็ตาม รายงานการประชุมบ่งชี้ว่า ยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมากว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร และจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจริงหรือไม่
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 164,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 130,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 101,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ การจ้างงานในเดือนธ.ค.ถือเป็นการจ้างงานสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 18,000 ราย สู่ระดับ 202,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 219,000 ราย
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 163,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 199,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในเดือนธ.ค. จากระดับ 3.7% ในเดือนพ.ย.