InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (3 ม.ค.) สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ อันเนื่องมาจากแรงขายทำกำไร หลังจากตลาดทะยานขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมาจากความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 474.40 จุด ลดลง 4.11 จุด หรือ -0.86%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,411.86 จุด ลดลง 119.00 จุด หรือ -1.58%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,538.39 จุด ลดลง 230.97 จุด หรือ -1.38% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,682.33 จุด ลดลง 39.19 จุด หรือ -0.51%
ดัชนี STOXX 600 ร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. และปรับตัวลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. หลังจากเริ่มต้นการซื้อขายในวันแรกของปีใหม่อย่างซบเซาเมื่อวันอังคาร
ตลาดหุ้นเยอรมนีและตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวลงกว่า 1% แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน
หุ้นกลุ่มก่อสร้างและกลุ่มวัสดุ ร่วง 2.9% และนำตลาดปรับตัวลง ซึ่งเป็นการร่วงลงเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบเกือบ 6 เดือน
หุ้นกลุ่มการเงินลดลง 2.5% ขณะที่ราคาโลหะที่ลดลงฉุดหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานร่วง 2.3%
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราร่วงลง 2.7% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย. โดยหุ้นแอลวีเอ็มเอช, เคอริ่ง, แอร์เมส และริชมอนด์ ร่วงลงราว 1.9-3.8%
หุ้นไรอันแอร์ร่วง 4.9% หลังตัวแทนการท่องเที่ยวออนไลน์หลายรายหยุดขายเที่ยวบินของไรอันแอร์เมื่อต้นเดือนธ.ค.
หุ้นเอเอสเอ็มแอล ร่วง 2.9% หลังรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ยกเลิกใบอนุญาตส่งออกชิปบางส่วนของเอเอสเอ็มแอลให้กับจีน
ส่วนหุ้นเมอส์ก พุ่ง 5.1% สวนทางตลาด หลังโกลด์แมน แซคส์ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของเมอส์กเป็น "คงน้ำหนักการลงทุน" จาก "ขาย"