InfoQuest - นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นเช้านี้แนวโน้มแกว่งไซด์เวย์อิงแดนบวก หลัง Bond yield และ US Dollar Index แตะต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น Emerging Market และตลาดหุ้นไทย นอกจากนี้ เงินบาทยังแข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือนเช่นกัน คาดนักลงทุนต่างชาติชะลอขาย รวมถึงคาดหวังเม็ดเงินกองทุนในประเทศไหลเข้า ให้กรอบแนวรับ 1,405 จุด บวก/ลบ และแนวต้าน 1,420 จุด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเช้า
นี้แนวโน้มแกว่งไซด์เวย์อิงทางแดนบวก จากการปรับตัวลงของ US Dollar Index และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น Emerging Market รวมถึงตลาดหุ้นไทยนอกจากนี้ เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือนแตะ 34.20 บาท คาดว่าจะทำให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการขาย รวมถึงคาดหวังเม็ดเงินจากกองทุนต่าง ๆ ยังทยอยไหลเข้าตลาดหุ้น
แนะนำหุ้นใหญ่กลุ่มเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และกลุ่มอาหาร Top pick ให้ ICHI จากแนวโน้มกำไรยังเติบโต รวมทั้งเมื่อวานนี้มีสัญญาณบวกจากราคาหุ้นดีดขึ้นมาด้วย
พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,405 จุด และแนวต้าน 1,420 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (27 ธ.ค.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,656.52 จุด เพิ่มขึ้น 111.19 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,781.58 จุด เพิ่มขึ้น 6.83 จุด หรือ +0.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,099.18 จุด เพิ่มขึ้น 24.60 จุด หรือ +0.16%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,477.47 จุด ลดลง 203.77 จุด หรือ -0.60% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,678.23 จุด เพิ่มขึ้น 53.39 จุด หรือ +0.32% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,913.11 จุด ลดลง 1.5 จุด หรือ -0.51%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ธ.ค.66) ที่ 1,410.43 จุด ลดลง 3.02 จุด (-0.21%) มูลค่าซื้อขาย 39,285.68 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 745.45 ล้านบาท (27 ธ.ค.66)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. (27 ธ.ค.66) ลดลง 1.46 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ปิดที่ 74.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ธ.ค.66) อยู่ที่ 6.29 เหรียญ/บาร์เรล
- เปิดเช้านี้ 34.28 แข็งค่าสุดรอบเกือบ 5 เดือน แนวโน้มยังไปต่อ
- เลขาธิการนายกฯ เผยรัฐบาลเดินหน้าต่อดิจิทัลวอลเล็ต ชง พ.ร.บ. กู้เงิน 5 แสนล้าน เข้าสภาต่อจาก พ.ร.บ.งบปี 2567 ชี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบดูแลประชาชน มั่นใจโครงการใช้ได้ในเดือน พ.ค.2567
- "เศรษฐา" นั่งหัวโต๊ะ ประชุมบอร์ดยุทธศาสตร์ชาติ สั่ง สศช.ปรับปรุงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ให้ทันบริบทใหม่ ทั้งปัญญาประดิษฐ์ภูมิรัฐศาสตร์ พลังงานสะอาด หวังเพิ่มช่องทางให้คนรุ่นใหม่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศ พร้อมเห็นชอบแผนขับเคลื่อน ปี 2568 กว่า 309 โครงการ
- "กทม." ออกประกาศเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าส่วนต่อ ขยายสายสีเขียว 15 บาท มีผลบังคับใช้วันที่ 2 ม.ค.นี้ ด้าน "คมนาคม" เร่งแก้ตั๋วเครื่องบินแพง ลุยอนุมัติเพิ่ม 8 สายการบินปี 67 หวังแก้ปัญหาเที่ยวบินไม่พอ
- ททท.เด้งรับนโยบาย 'เศรษฐา' ปี 2567 ดึงยุโรปเที่ยวไทย 35 ล้านคน ตั้งเป้ารายได้ 3.5 ล้านล้านบาท เล็งชง ครม.เพิ่มวันพำนักยาวเป็น 60 วัน
*หุ้นเด่นวันนี้
- WHA (กรุงศรี) เป้า IAA Consensus 5.95 บาท คาดยอดขายที่ดินพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ในปีนี้และปีหน้าที่ 2,700 ไร่และ 3,000 ไร่ ตามลำดับ จากยอดซื้อของกลุ่ม EV car และมี Upside จากกลุ่มทุนสหรัฐเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจ Data Center ของ Google (NASDAQ:GOOGL), Microsoft และ รถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla (NASDAQ:TSLA)
- SISB (กสิกรไทย) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 39.26 บาท ภาพระยะยาวเป็นบวกจากการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย สนับสนุน demand นักเรียนใหม่อย่างต่อเนื่อง สำหรับภาพระยะสั้น-กลาง เราคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 จะขยายตัวขึ้น YoY และ QoQ จากจำนวนนักเรียนที่มากขึ้นจากทั้ง 4 สาขาเดิมและ 2 สาขาใหม่ที่ระยองและนนทบุรี เราเชื่อว่าสาขาเดิมและ 2 สาขาใหม่ กอปรกับโครงการลดค่าเรียนลงครึ่งหนึ่งในปี 68
- COM7 (เมย์แบงก์) แนะนำ "ซื้อ" เป้าเชิงกลยุทธ์ 32.50 บาท หนึ่งในผู้ได้ประโยชน์สูงสุดจาก Easy E-Receipt และคาดการณ์การเติบโตของ EPS ที่ 14% และ 20% ในปี 67-68งโดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอย่างต่อเนื่อง (เป้าหมายของผู้บริหารที่ 35% ภายในปี 68) ด้านราคาหุ้นเทรดที่ Forward PER67 ที่ 15.8 เท่าต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลังกว่า -1 S.D. เมื่อเทียบการเติบโตกำไรที่ดีและ ROE ที่สูง 37% นอกจากนี้ยังเชื่อว่า COM7 มีโอกาสได้แรงหนุนจาก Window Dressing ในวันนี้อีกด้วย