Investing.com - ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกมีการซื้อขายกันแบบผสมผสานในวันนี้ หลังจากที่หุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ร่วงลงในชั่วข้ามคืน เนื่องจาก Nvidia รายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีกว่าที่คาดไว้
เมื่อเวลา 11:00 a.m. AEDT (12:00 a.m. GMT) S&P/ASX 200 เพิ่มขึ้น 0.2% ในขณะที่ KOSPI 200 และ Nikkei 225 ปรับลง 0.7 % และ 0.3% ตามลำดับ
ในสหรัฐอเมริกา ดัชนีหุ้นหลัก ๆ ที่สำคัญส่วนใหญ่ร่วงลงเนื่องจากหุ้นเทคโนโลยีทำผลงานแย่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับลง 62 จุด เป็น 35,088 S&P 500 ปรับลง 0.2% เป็น 4,538 และ Nasdaq คอมโพสิต ปรับลง 0.6% เป็น 14,199
ผู้ค้าปลีกหลายรายรายงานผลประกอบการที่แย่ลงเมื่อวันอังคาร หุ้นของ Kohl’s ปรับลง 8.6% หลังจากยอดขายลดลงต่ำกว่าประมาณการ ในขณะที่หุ้น Best Buy ปรับลง 0.7% หลังจากแนวโน้มยอดขายทั้งปีลดลง หุ้นของ Lowe’s ก็ร่วงลง 3.1% หลังจากที่บริษัทปรับลดแนวโน้มในปีนี้
ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมันดิบเบรนท์ ปรับขึ้นเล็กน้อย 0.2% เป็น 82.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่ ทองคำ ปรับขึ้น 1.0% เป็น 1,998.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ในตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนของ พันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 2 ปี ปรับลงเหลือ 4.15% ในขณะที่อัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 10 ปี ปรับลงเหลือ 4.44% พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลรสหรัฐอายุ 2 ปี อยู่ที่ 4.89% และอัตราผลตอบแทน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ 4.41%
ดอลลาร์ออสเตรเลีย ปรับลงเล็กน้อยเป็น 65.53 เซ็นต์สหรัฐ และ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ปรับลงมาเป็น 98.13
ในประเทศจีน แม้จะมีการคาดหวังเกี่ยวกับการสนับสนุนที่มากขึ้นสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบปัญหาของประเทศ แต่หุ้นส่วนใหญ่ปิดตัวลดลง หุ้นฮาร์ดแวร์และเซมิคอนดักเตอร์ได้สร้างแรงกดดันให้กับตลาด หุ้นอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวขึ้นหลังจากมีข่าวหน่วยงานกำกับดูแลของจีนร่างรายชื่อบริษัท 50 แห่งที่มีสิทธิ์ได้รับเงินทุน
หุ้นฮ่องกงเสียกำไรในช่วงต้นและปิดตัวลดลงโดยมีสาเหตุมาจากภาคเทคโนโลยี หุ้นอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากมีข่าวว่าหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของจีนกำลังร่างรายชื่อนักบริษัท 50 รายที่มีสิทธิ์ได้รับการสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติม
ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นขยับลง 0.1% เนื่องจากการแข็งค่าของเงินเยน ซึ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของผู้ส่งออกในต่างประเทศของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม การขาดทุนนี้ถูกจำกัดเนื่องจากการปรับขึ้นของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์
หุ้นอินเดียปิดสูงขึ้น นำโดยบริษัทเหล็กและหุ้นผู้บริโภค ซึ่งอาจได้รับแรงหนุนจากความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ นั้นเสร็จสิ้นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
หุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับลงหลังจากการซื้อขายแบบผสมผสานในเอเชียและก่อนการเปิดตลาดของสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะลดลง โดยStoxx Europe 600 FTSE 100 และ CAC 40 ร่วงลงทั้งหมด ในขณะที่ DAX ปรับขึ้นไปเล็กน้อย ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง 0.3% เป็น 82.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่งผลให้หุ้นน้ำมันปรับตัวลดลง FTSE 100 ปิดลดลง 0.19% เป็น 7,481.99 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา