💎 ดูบริษัทต่าง ๆ ที่มีสุขภาพทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบันเริ่มต้นเลย

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าย่อตัวรับบอนด์ยีลด์กลับมาดีดขึ้น เกาะติดถ้อยแถลงประธานเฟด

เผยแพร่ 07/11/2566 16:30
© Reuters.  (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าย่อตัวรับบอนด์ยีลด์กลับมาดีดขึ้น เกาะติดถ้อยแถลงประธานเฟด

InfoQuest - นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ย่อตัวรัลบอนด์ยีลด์พลิกขึ้นมาอีกรอบ รวมทั้งสัปดาห์นี้ไม่ค่อยมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐให้ติดตามหรือวิเคราะห์ทิศทางดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจีบตาถ้อยแถลงประธานเฟดประเด็นเศรษฐกิจและอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งสัปดาห์นี้ติดตามความเห็นจากประธานเฟดสาขาต่าง ๆ แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันไม่ได้พุ่งขึ้นมาความเห็นเรื่องเงินเฟ้ออาจเบาลง ส่งผลให้ทิศทาง SET ช่วงนี้แกว่งไซด์เวย์สอดคล้องตลาดหุ้นโลก ให้แนวรับ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,432 จุด

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะย่อตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) เริ่มปรับขึ้นมาเหนือ 4.6% อีกครั้ง รวมทั้งในสัปดาห์นี้ยังไม่มีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐให้ติดตามหรือวิเคราะห์ทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ย ระหว่างที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในงานเสวนาของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งคาดว่าจะมีการพูดถึงเรื่องเศรษฐกิจและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย รวมถึงความเห็นของประธานเฟดสาขาต่าง ๆ

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์เศรษฐกิจยังเป็นอยู่ในลักษณะนี้ ราคาน้ำมันไม่ได้พุ่งขึ้น โดยทรงตัวอยู่ระดับล่าง หลังจากพุ่งขึ้นไปในช่วงเกิดสงครามตะวันออกกลาง ความเห็นเรื่องเงินเฟ้ออาจเบาลง ส่งผลให้ทิศทางของ SET ในสัปดาห์นี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์สอดคล้องกับตลาดหุ้นโลก

สัปดาห์นี้แนะนำติดตามการควบรวมระหว่าง ADVANC และ 3BB ขณะที่หุ้นแนะนำ เป็นกลุ่มคาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/66 ฟื้นตัว อาทิ CK AMATA DOHOME หรือกลุ่มที่ก่อนหน้านี้ผลประกอบการไม่ดีมานานและคาดว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัว

ขณะที่การรายงานตัวเลขนำเข้า-ส่งออกของจีนเดือนที่แล้วยังทรงตัวในระดับที่ต่ำ แต่เห็นการฟื้นตัวเล็กน้อย ซึ่งหากตัวเลขในสัปดาห์นี้ฟื้นตัวจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปยังจีน อาทิ SCGP

ให้แนวรับที่ 1,400 จุด และแนวต้าน 1,432 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (6 พ.ย.66) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,095.86 จุด เพิ่มขึ้น 34.54 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,365.98 จุด เพิ่มขึ้น 7.64 จุด หรือ +0.18% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,518.78 จุด เพิ่มขึ้น 40.50 จุด หรือ +0.30%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,551.77 จุด ลดลง 156.71 จุด หรือ -0.48% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,850.59 จุด ลดลง 116 จุด หรือ -0.65% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,052.92 จุด ลดลง 5.49 จุด หรือ -0.18%

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 พ.ย.66) 1,417.21 จุด ลดลง 2.55 จุด (-0.18%) มูลค่าการซื้อขาย 42,924.19ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,117.57 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 พ.ย.66

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.(6 พ.ย.) เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 80.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 พ.ย.) อยู่ที่ 4.30 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 35.51 อ่อนค่าเล็กน้อย จากแรงซื้อดอลล์กลับ คาดกรอบ 35.40-35.65

- "จุลพันธ์" เผยนายกฯ เตรียมแถลงสรุปแจกเงินดิจิทัลด้วยตัวเอง 10 พ.ย. พร้อมรายงาน ครม.รับทราบวันนี้ (7 พ.ย.) ไม่ขัดข้องจ่ายผ่านแอปเป๋าตัง ส่วนแหล่งเงินจากงบประมาณไม่เป็นอุปสรรคร้านค้าไม่เข้าร่วม "ทีดีอาร์ไอ" มองเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลจะนำข้อเสนอแนะจากหลายฝ่ายมาพิจารณาจะใช้เงิน 5.6 แสนล้านให้เกิดประโยชน์มากสุด

- นายกฯ เร่งคณะทำงานศึกษาปรับขึ้นเงินเดือนขรก.-ค่าแรงขั้นต่ำ ต้องรายงานความเป็นไปได้สิ้นเดือน พ.ย.นี้ ขอฟัง รมว.แรงงานอีกครั้งหลังระบุอาจไม่ได้ 400 บาททุกพื้นที่ "ปานปรีย์" ขีดเส้น 3 สัปดาห์ได้ข้อสรุปผลศึกษา 2 กรณี "พิพัฒน์" สั่งสำรวจ ความต้องการค่าแรงทั่วประเทศภายใน 17 พ.ย. ก่อนถกไตรภาคี นำเสนอ ครม.พิจารณา

- เงินเฟ้อ ต.ค.66 ติดลบ 0.31% ปรับลดครั้งแรกรอบ 25 เดือน เหตุสินค้ากลุ่มพลังงาน สินค้าอุปโภคบริโภค ลดลงจากมาตรการลดค่าครองชีพรัฐ สินค้ากลุ่มอาหาร ทั้งเนื้อสุกร ผักสด ราคาถูกกว่าปีก่อน ย้ำไม่ต้องกังวล ไม่มีสัญญาณลบอะไร ยอดรวม 10 เดือน เพิ่ม 1.60% คาดเดือน พ.ย. ลดอีก หลังสินค้ามีแนวโน้มชะลอตัว

- FETCO เตรียมเข้าพบ รมว.คลัง สัปดาห์หน้า หารือ "ตั้งกองทุนออมหุ้น ระยะยาว" นายกสมาคมโบรกฯ ชี้ หนุนคนไทย ออมเงิน-ช่วยรัฐลดค่าใช้จ่ายดูแลสูงวัย "นายกสมาคมนักวิเคราะห์" หวังลดความผันผวน-ตลาดทุนไทยมีเสถียรภาพ "บล.เอเซีย พลัส" ย้ำปัดฝุ่น "กองทุนแอลทีเอฟ" ได้ประโยชน์สูงสุด

- ก.ล.ต. จับมือ ตลท.สั่งหุ้น IPO เปิดข้อมูลเร็วขึ้น "ผู้ถือหุ้นใหญ่-งบการเงิน" เพื่อใช้ตัดสินใจลงทุน-ป้องรายย่อยถูกเอาเปรียบ ส่วนจะปรับเกณฑ์หรือไม่ ต้องใช้เวลาหารือ

*หุ้นเด่นวันนี้

- SAWAD (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 54.00 บาท คาดกำไรไตรมาส 3/66 ที่ระดับ 1.47 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้ง q-q และ y-y จากการเติบโตของสินเชื่อรวม และการลดลงของการตั้งสำรอง เนื่องจากไตรมาส 2/66 มีรายการพิเศษ ด้านต้นทุนทางการเงินเริ่มจำกัด ขณะที่ Valuation อยู่ในระดับที่ไม่แพงเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต ถือเป็นระดับที่น่าสะสม

- SPRC (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 10.80 บาท ได้ Sentiment บวกจากค่าการกลั่นและราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว และดักซื้อเก็งกำไรก่อนที่ SPRC จะประกาศงบ ไตรมาส 3/66 ในวันพรุ่งนี้เบื้องต้นคาดพลิกมีกำไรสุทธิ 3.7 พันล้านบาทเทียบจากขาดทุนสุทธิ 2.1 พันล้านบาทและ 5 พันล้านบาทในไตรมาส 2/66 และ ไตรมาส 3/65 ตามลำดับ

- TIDLOR (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 31.40 บาท รายงานกำไรไตรมาส 3/66 สูงสุดใหม่ที่ 1.0 พันลบ.(+9% QoQ, +12% YoY) สูงกว่าที่เราคาดไว้ 7% เนื่องจากรายได้แข็งแกร่งเกินคาด NII และ non-NII ที่แข็งแกร่งจากธุรกิจนายหน้าประกันภัย ช่วยหนุน PPOP และการเติบโตของกำไร QoQ และ YoY ในไตรมาส 3/66 NPL ratio คงที่ที่ 1.5% และดีกว่าที่เราคาดไว้ 10bps คาดกำไรภาคเกษตรที่ดี และความเสี่ยง El Nino ที่รุนแรงน้อยกว่าคาดในปีหน้าจะหนุนให้ผลประกอบการดีขึ้นต่อเนื่อง

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย