Myles Lambert รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่าย Marketing และการจัดจําหน่ายของ Brighthouse Financial, Inc. (แนสแด็ก:BHF) ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยที่มีมูลค่าตลาดมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ตามการยื่นต่อ SEC เมื่อเร็วๆ นี้ Lambert ขายหุ้นสามัญของ Brighthouse Financial ทั้งหมด 8,400 หุ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2024 ข้อมูลของ InvestingPro แสดงให้เห็นว่าบริษัทรักษาสภาพคล่องที่แข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน 1.66x
หุ้นถูกขายในราคาตั้งแต่ 51.13 ถึง 52.46 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าธุรกรรมรวมประมาณ 434,307 ดอลลาร์ หลังจากการทําธุรกรรมเหล่านี้ Lambert ยังคงเป็นเจ้าของหุ้น 33,407 หุ้นในบริษัท จากการวิเคราะห์ของ InvestingPro หุ้นดูเหมือนจะมีมูลค่าต่ําเกินไปที่ระดับการซื้อขายปัจจุบันใกล้ 50.80 ดอลลาร์
การขายเหล่านี้ดําเนินการภายใต้แผนการซื้อขายตามกฎ 10b5-1 ที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้า ซึ่งแลมเบิร์ตนํามาใช้เมื่อต้นปีนี้เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2024 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม้ว่าคนวงในรายนี้จะลดการถือครอง แต่การวิเคราะห์ของ InvestingPro เผยให้เห็นว่าฝ่ายบริหารได้ซื้อหุ้นคืนอย่างแข็งขัน โดยมีข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมในรายงาน Pro Research ที่ครอบคลุมซึ่งครอบคลุมหุ้นนี้
ในข่าวล่าสุดอื่น ๆ Brighthouse Financial ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2024 แม้รายได้ที่ปรับปรุงแล้วจะลดลงเหลือ 243 ล้านดอลลาร์ แต่บริษัทก็เน้นย้ําถึงฐานะเงินทุนที่แข็งแกร่งและการเติบโตของยอดขายในผลิตภัณฑ์ประกันรายปีและประกันชีวิต Brighthouse Financial ตั้งเป้าที่จะฟื้นฟูอัตราส่วนเงินทุนตามความเสี่ยง (RBC) ให้อยู่ระหว่าง 400%-450% ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 365%-385% บริษัทกําลังสรุปข้อตกลงการประกันภัยต่อที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตราส่วน RBC
สินทรัพย์สภาพคล่องของ Brighthouse Financial อยู่ที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการซื้อหุ้นคืน 64 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 3 ยอดขายเงินรายปีตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันแตะ 7.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 15% ในผลิตภัณฑ์ Shield Annuity และยอดขายประกันชีวิตเพิ่มขึ้น 19% เป็น 87 ล้านดอลลาร์ บริษัทมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับสถานะทางการเงินและมุ่งเน้นไปที่การลดความซับซ้อนของกลยุทธ์การป้องกันความเสี่ยง คาดว่าจะปรับปรุงอัตราส่วน RBC เมื่อเสร็จสิ้นข้อตกลงการประกันภัยต่อสําหรับเงินงวดมรดกภายในสิ้นปี และคาดว่าจะมีข้อตกลงการประกันภัยต่อแบบไหลล่วนที่อาจเกิดขึ้นในปี 2025 เพื่อบรรเทาความเครียดทางธุรกิจใหม่ต่อไป
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน