Investing.com - ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้
1. การประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคล่วงหน้าก่อนการประชุมเฟด
ดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐฯ มีกำหนดการประกาศในวันนี้เวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (12:30 GMT)
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่า อัตราเงินเฟ้อโดยรวม ที่ชี้วัดได้จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนสิงหาคมจะลดลงเหลือ 0.1% จากเดือนก่อน 0.3% ส่วนดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่ได้รวมราคาสินค้าด้านอาหารและพลังงานน่าจะชะลอตัวลง 0.2% จากเดือนก่อน 0.3%
ทำให้การเติบโตของดัชนี CPI เมื่อเทียบปีต่อปีจะเติบโตขึ้น 1.8% และการเติบโตของดัชนี CPI พื้นฐานสูงขึ้นเล็กน้อยที่ 2.3%
นอกจากนี้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ก็มีกำหนดการรายงานในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออกด้วยเช่นกัน
อ้างอิงจากผลคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะลดลง 215,000 ราย จากสัปดาห์ก่อน 217,000 ราย
2. กลุ่ม OPEC และประเทศพันธมิตรเตรียมประชุมกันที่กรุงอาบูดาบี
กลุ่ม OPEC และประเทศพันธมิตรจะประชุมกันในวันนี้ที่กรุงอาบูดาบีเพื่อทบทวนกลยุทธ์การลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้ง
ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ให้คำมั่นไว้ว่า จะผลักดันให้ประเทศสมาชิกทุกประเทศยึดมั่นต่อการลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อไป แต่กลับไม่ได้กล่าวถึงการลดกำลังการผลิตมากขึ้นกว่าเดิม แม้การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันยังน่ากังวล ท่ามกลางการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
"เนื่องจากขณะนี้ ราคาน้ำมันดิบl ยังอยู่ใต้ระดับราคาเป้าหมายของซาอุดิอาระเบีย ($80 ต่อบาร์เรล) เราเชื่อว่าสมาชิกกลุ่มโอเปกไม่มีทางเลือกอื่นนอกเสียจากจะต้องดำเนินการลดกำลังการผลิตต่อไปตามข้อตกลงเดิมเพื่อหนุนระดับราคาน้ำมันในปัจจุบัน" Goldman ระบุไว้ในบันทึก "ดูเหมือนว่าความสามารถของกลุ่มโอเปกในการหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้นนั้นยังไม่มากพอ"
ราคาน้ำมันดิบย่อตัวลงจากขาขึ้นช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์เล็กน้อย เนื่องจากผู้ลงทุนเริ่มหวั่นว่าทรัมป์อาจกำลังวางแผนการเจรจากับอิหร่าน และอาจยอมลดหย่อนมาตรการแซงก์ชันซึ่งจะนำไปสู่อุปทานน้ำมันโลกที่เพิ่มขึ้นได้
เมื่อถามทรัมป์ว่าเขากำลังพิจารณาลดหย่อนมาตรการแซงก์ชันอิหร่านหรือไม่ เขาตอบว่า "เดี๋ยวเรารอดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
ราคาน้ำมันดิบ พุ่งขึ้นมาเกือบ 3% เมื่อวานนี้
3. วันแห่ง ECB
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีกำหนดการรายงานผลพิจารณา นโยบายทางการเงิน ในวันนี้เวลา 07:45 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (11:45 GMT) โดยตลาดคาดว่าธนาคารกลางยุโรปน่าจะปรับนโยบายให้ผ่อนคลายลงเพื่อต่อกรกับปัญหาทางเศรษฐกิจฝั่งยูโรโซน
แม้ความคาดหวังที่จะให้มีการปรับนโยบายคร้ังใหญ่กลับลดน้อยลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ประธาน ECB นายมาริโอ ดรากี ก็น่าจะเผยมาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจครั้งใหม่หลังจากได้เปรยไว้เมื่อการแถลงข่าวครั้งก่อน ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของเขาก่อนที่นางคริสตีน ลาการ์ด จะรับช่วงต่อ
เศรษฐกิจของฝั่งยูโรโซนเติบโตขึ้น 0.2% ในไตรมาสที่สอง และประเทศเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอันได้แก่เยอรมนีและฝรั่งเศส ต่างก็หดตัวลง 0.1% และขยายตัวขึ้น 0.2% ตามลำดับในไตรมาสดังกล่าว
Action Economics มีความเห็นว่า “ตลาดส่วนมากคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยราว 10 จุด ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ -0.50% ส่วนอัตราดอกเบี้ยธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรที่ขณะนี้เท่ากับ 0.00% ก็น่าจะคงอยู่ในระดับเดิมต่อไปในตอนนี้"