โดย Noreen Burke
Investing.com -- ภาพรวมของห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
- ตลาดจีนเตรียมทรุดตัวลงจากการเทขาย
ตลาดการเงินจีนเตรียมเปิดทำการอีกครั้งในวันนี้ ผู้ลงทุนต่างก็เตรียมตั้งรับความผันผวนจากการเทขายตามรอยตลาดหุ้นทั่วโลก ท่ามกลางความหวาดหวั่นต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งทางธนาคารกลางจีนเองก็กำลังเตรียมใช้มาตรการกระตุ้นทางเศรษฐกิจในวันนี้เพื่อหนุนสภาพคล่องและช่วยเหลือบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้
มาตรการควบคุมการระบาดของโรคได้ก่อให้เกิดผลกระทบครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจจีนและอาจกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างหนัก หลังจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนเมื่อปีที่แล้วได้ทำให้ GDP จีนในปี 2019 หดตัวลงถึง 6% และทำให้เศรษฐกิจโลกปีที่แล้วชะลอตัวลงเหลือ 3% จาก 3.6% ในปี 2018
- ผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลกต่อการระบาดของเชื้อไวรัส
ตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับแรงกดดันจากการระบาด โดยเมื่อวันศุกร์ดัชนีหลักส่วนใหญ่ของวอลล์สตรีทต่างก็ทรุดตัวลงมากกว่า 1.5% ส่งมอบสัปดาห์ที่ย่ำแย่ที่สุดในระยะเวลาหกเดือน
นักเศรษฐศาสตร์หลายท่านหวาดหวั่นว่าผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้อาจรุนแรงกว่าการระบาดของโรคซาร์ส (SARS) ซึ่งคร่าชีวิตผู้ติดเชื้อกว่า 800 รายระหว่างปี 2002 และ 2003 อีกทั้งยังสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกเป็นมูลค่าราว 3.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐอีกด้วย
ทางด้านราคาน้ำมันก็ได้ส่งมอบขาลงรายเดือนที่ย่ำแย่ที่สุดในระยะเวลานานกว่าหนึ่งปีเมื่อวันศุกร์ ขณะที่ ราคาทองคำ ปิดเดือนมกราคมในแดนบวก และเป็นเดือนที่ดีที่สุดในระยะเวลาห้าเดือน
- การรายงานผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ
ผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ของ Disney ที่จะรายงานออกมาหลังเวลาตลาดปิดในวันพรุ่งนี้ จะประกอบไปด้วยยอดสมาชิกอย่างเป็นทางการเดือนแรกจากบริการสตรีมมิ่ง Disney+ ที่ได้มีการเปิดตัวบริการเมื่อช่วงกลางไตรมาสทีผ่านมา ทั้งนี้ผู้ลงทุนก็จะจับตาผลกระทบแง่ลบด้วยเช่นกันหลังจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาได้ทำให้ดิสนีย์แลนด์ที่เซี่ยงไฮ้ต้องปิดทำการอย่างไม่มีกำหนด
- ตลาดแรงงานสหรัฐฯ อาจได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา
ส่วน ดัชนีภาคการผลิตจาก ISM ที่จะรายงานออกมาในวันนี้คาดว่าจะสูงขึ้นเล็กน้อย ข้อมูลทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ ของสหรัฐฯ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากการทำข้อตกลงทางการค้าขั้นแรกระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้สมาชิกเฟดหลายท่านก็มีกำหนดการให้คำกล่าวในสัปดาห์นี้ภายหลังจากเฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ดังเดิมในการประชุมนโยบายทางการเงินประจำเดือนมกราคม และประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็มีกำหนดการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาในวันพรุ่งนี้ด้วยเช่นกัน
ทางฝั่งยูโรโซน ยอดค้าปลีก ประจำเดือนธันวาคมจะเผยแพร่ออกมาในวันพุธ ส่วนในวันพฤหัสบดีนี้ประธานธนาคารกลางยุโรป นางคริสทีน ลาการ์ด ก็จะให้คำกล่าวเกี่ยวกับภาพรวมทางเศรษฐกิจต่อหน้าคณะส.ส.ยุโรปอีกด้วย
- RBA จะลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะประกาศ ผลการประชุมปรับนโยบายทางการเงิน ในวันพรุ่งนี้ และผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่กับภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ได้รับแรงกดดันจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาทำให้มีแนวโน้มสูงมากที่จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุด แม้ว่าอัตราการว่างงานล่าสุดของประเทศจะออกมาลดลงก็ตาม