Investing.com -- ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบสองปีเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์เท่ากับ 0.75%
หลังจากการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลีย ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเกือบหนึ่งเซนต์เมื่อเทียบกับ เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยทันที อีกทั้งยังมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยว่าออสเตรเลียมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้าที่สุดในรอบทศวรรษ เนื่องด้วยผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ทำให้อุปสงค์ของจีนในการสั่งซื้อสินค้าโภคภัณฑ์จากออสเตรเลียลดลง
ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ บวกขึ้นไปสูงสุดถึง 99.21 ใกล้ระดับสูงสุดที่ระดับ 99.33 ที่เคยขึ้นไปแตะได้เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสิบปีเมื่อเทียบกับ เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย
Robert Carnell หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคแปซิฟิกที่ ING ให้ความเห็นไว้ว่า “ความเคลื่อนไหวของค่าเงินในอนาคตอาจขึ้นอยู่กับคำกล่าวของผู้ว่าการธนาคาร (ฟิลิป) โลว์ ในมื้อค่ำที่เมลเบิร์นช่วงครึ่งหลังของวันนี้ เขาอาจเลือกที่จะสร้างความหวังว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต หรืออาจเลือกที่จะแสดงความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของรายจ่ายผู้บริโภคก็ได้ ซึ่งขัดแย้งกับความสนใจของตลาดที่กำลังมุ่งไปยังตลาดแรงงานของประเทศ"
นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับ เงินเยน หลังจากผลสำรวจ Tankan ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ค่าเงินเยนกลับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินปอนด์สเตอร์ลิงท่ามกลางช่วงโค้งสุดท้ายของ Brexit โดยล่าสุด Daily Telegraph ได้รายงานในวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายบอริส จอห์นสัน จะเสนอแผนการอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงการกำหนดพรมแดนไอร์แลนด์แบบเข้มงวดไปยังสหภาพยุโรป หลังจากที่เขาได้ให้คำกล่าวที่การประชุมพรรคอนุรักษนิยมประจำปี