Investing.com - ตลาดหุ้นค่อนข้างซบเซาเมื่อวานนี้ ภายหลังจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความน่ากังวลทางเศรษฐกิจ รวมถึงความโล่งอกด้วยเนื่องจากสหรัฐฯ ไม่ได้โจมตีอิหร่านเพื่อตอบโต้การยิงโดรนที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
แต่ก็เป็นไปได้ว่าอีกสองสามวันข้างหน้านี้ตลาดหุ้นจะยังซบเซาเช่นเดิม เนื่องจากผู้ลงทุนกำลังรอจับตาว่าการประชุมระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีจีน นายสี จิ้นผิง จะออกมาในทิศทางใด โดยทั้งสองผู้นำมีกำหนดการ "ประชุมเพิ่มเติม" ในสุดสัปดาห์นี้ ณ ที่ประชุม G20 กรุงโตเกียว
นอกจากนี้ ทรัมป์ได้ประกาศมาตรการแซงก์ชันอิหร่านครั้งใหม่อีกด้วย ซึ่งการแซงก์ชันมีลักษณะที่ออกแบบมาเพื่อบีบบังคับอิหร่านให้ยอมรื้อข้อตกลงนิวเคลียร์เมื่อหลายปีก่อนขึ้นมาใหม่ และล่าสุดอิหร่านก็ยังคงไม่ยอมเจรจาด้วย
ดัชนี S&P 500 ขยับลง 0.2% เมื่อวานนี้ ดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ปรับขึ้น 0.03% และดัชนี Nasdaq Composite ขยับลง 0.24% บรรดาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแสดงให้เห็นแนวโน้มว่าดัชนี S&P 500 และ Nasdaq-100 จะขยับขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย แต่ดัชนี Dow อาจพุ่งขึ้นไปอีกราว 60 จุด
สิ่งที่น่าจับตา: ดัชนี S&P 500 ได้ทำราคาปิดสูงสุดในประวัติการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี และแตะระดับราคาสูงสุดรายวันเมื่อวันศุกร์ แต่ทั้งดัชนี Dow, Nasdaq และดัชนีอื่น ๆ กลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อวานนี้ดัชนี Dow ปิดต่ำลง 0.8% จากระดับสูงสุดในประวัติการณ์ในเดือนตุลาคม และดัชนี Nasdaq Composite ก็ปิดต่ำลง 2.1% จากระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่เคยขึ้นไปแตะเมื่อปลายเดือนเมษายน
ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี หุ้นวัตถุดิบ และหุ้นสินค้าจำเป็นอย่างเช่น Walmart (NYSE:WMT) ที่ทำระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ ส่วนหุ้น Microsoft (NASDAQ:MSFT) และ Coca-Cola (NYSE:KO) ก็แตะระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์เช่นกัน