Investing.com -- ห้าเรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันพุธที่ 27 พฤศจิกายนมีดังต่อไปนี้
1. บริษัทจีนได้รับผลกระทบจากภาษีศุลกากรสหรัฐฯ
แรงกดดันจากการเรียกเก็บภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจจีน เริ่มปรากฎอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้นในข้อมูลผลกำไรภาคอุตสาหกรรมที่ทรุดตัวลงถึง 9.9% ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นอัตราการหดตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่จีนเริ่มเก็บข้อมูลเมื่อปี 2011
ทว่านักวิเคราะห์จาก ING ก็ได้ชี้ว่า เมื่อเทียบแต่ละภาคส่วนแล้วจะพบว่าข้อมูลมีทิศทางที่แตกต่างกัน โดยภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงทางการค้า อาทิ ใยสังเคราะห์, ยานยนต์, กระดาษและผ้า จะได้รับผลกระทบทางลบมากกว่า ขณะที่บริษัทกิจการเหมืองแร่และบริษัทที่อยู่นอกภาคการขนส่งยานยนต์นั้นมีผลกำไรเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่า
รายงานดังกล่าวตามมาหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้สัมภาษณ์ช่วงครึ่งหลังของเมื่อวานนี้ เช่นเดียวกับคำกล่าวอื่น ๆ ที่จะต้องใช้วิจารณญาณในการรับฟัง แต่ตลาดได้ปักใจเชื่อคำกล่าวของทรัมป์ไปแล้วว่าทั้งสองประเทศกำลังอยู่ในช่วง "โค้งสุดท้าย" ของการเจรจากันเพื่อทำข้อตกลงทางการค้า 'ขั้นแรก' อันจะเป็นการลดความขัดแย้งทางการค้าของทั้งสองประเทศ
2. มหกรรมการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจก่อนวันหยุดเทศกาล
ในวันนี้มีการรายงานข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มากมาย รวมทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานซึ่งจะประกาศออกมาล่วงหน้าหนึ่งวันจากปกติวันพฤหัสบดีเพื่อเลี่ยงวันหยุดเทศกาล โดยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะมีกำหนดการรายงานในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1330 GMT) เช่นเดียวกับยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคลซึ่งเป็นดัชนีที่เฟดมักใช้เพื่อพิจารณาอัตราเงินเฟ้อ
ทว่าตัวเลขที่เป็นที่น่าจับตาที่สุดในวันนี้คือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของไตรมาสที่สามที่จะประกาศออกมาเป็นครั้งที่สอง ซึ่งการประกาศตัวเลขครั้งแรกชี้ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรายปีชะลอตัวลงอยู่ที่ 1.9% อันเป็นอัตราที่เชื่องช้าที่สุดนับตั้งแต่กลางปี 2017
ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนตุลาคมจะมีกำหนดการรายงานในเวลา 8:30 น. ส่วนดัชนี PMI จากชิคาโกจะรายงานในเวลา 9:45 น.
3. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในแดนบวก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมปรับขึ้นเล็กน้อยในวันซื้อขายวันสุดท้ายก่อนช่วงเทศกาลวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยได้รับแรงหนุนจากคำกล่าวของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับความคืบหน้าทางการเจรจากับจีน (ถึงกระนั้นทรัมป์ก็ยังไม่ได้ชี้แจงว่าเขาจะอนุมัติกฎหมายที่สนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงฮ่องกงหรือไม่)
เมื่อเวลา 6:15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า ขยับขึ้น 21 จุดหรือราว 0.1% ส่วนสัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 และ Nasdaq 100 ต่างก็ปรับขึ้น 0.2%
เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นยุโรปแตะระดับสูงสุดในรอบสี่ปีด้วยแรงหนุนจากคำกล่าวของทรัมป์เช่นกัน
ในวันนี้บริษัทที่น่าจับตาผลประกอบการคือ Deere & Co. ซึ่งผลประกอบการของบริษัทจะเผยข้อมูลเชิงลึกให้เห็นผลกระทบจากสงครามทางการค้าต่อการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของสหรัฐฯ จากจีน
4. Silver Lake ทุ่มทุนให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
บริษัทเอกชนสหรัฐฯ ทุ่มทุนครั้งใหญ่อีกครั้งกับวงการฟุตบอลยุโรป โดยบริษัท Silver Lake ตกลงอัดฉีดเงินมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้กับทีมแชมป์อังกฤษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ส่งผลให้สโมสรมีมูลค่าอยู่ที่ 4.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ และทำให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นแฟรนไชส์การกีฬาที่มีมูลค่าสูงที่สุดในยุโรป
ขณะนี้สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีผู้ถือหุ้นหลักเป็นบริษัทจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอ้างอิงจากรายงาน Financial Times บริษัท Silver Lake ตั้งใจว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นสโมสร "ไปอีกประมาณหนึ่งทศวรรษ" ก่อนที่จะออกจากการถือหุ้นด้วยการทำ IPO หรือขายต่อให้กับผู้ลงทุนเอกชนรายอื่น
5. ผลสำรวจการเลือกตั้งสหราชอาณาจักร
หากท่านอยากทราบว่าใครจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งสหราชอาณาจักร ให้ไปที่เว็บไซต์ The Times of London ในเวลา 17.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (2200 GM)
เพราะผลสำรวจของ YouGov เป็นผลสำรวจที่พยากรณ์ได้อย่างถูกต้องว่าพรรคอนุรักษนิยมจะสูญเสียคะแนนเสียงส่วนมากในปี 2017 ขณะที่ผลสำรวจอื่น ๆ ได้พยากรณ์ในขณะนั้นว่าอดีตนายกรัฐมนตรี นางเธเรซา เมย์ จะชนะขาดลอย ซึ่งเป็นสถานการณ์เดียวกันกับนายบอริส จอห์นสัน ในตอนนี้
ผลสำรวจเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างผู้ลงคะแนนเสียงประมาณ 50,000 ราย ต่างจากผลสำรวจปกติที่เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเพียง 1,000-1,500 รายแล้ววิเคราะห์ผ่านตัวกรองหลายประเภท ทว่าเนื่องด้วยกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดใหญ่ ดังนั้นผลลัพธ์จึงอาจไม่แสดงให้เห็นถึงทัศนคติที่มีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง