Cyber Monday Deal: ลดสูงสุด 60% InvestingProรับส่วนลด

ราคาทองเคลื่อนไหวน้อยมากเนื่องจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

เผยแพร่ 30/06/2565 03:32
XAU/USD
-
GC
-

โดย   Barani Krishnan

Investing.com – ในสัปดาห์ที่แล้วต้องถือว่าตลาดทองคำค่อนข้างมีความเคลื่อนไหวเยอะทีเดียว แต่เป็นการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยไม่มีนัยยะสำคัญอะไรมากนัก 

ในการซื้อขาย สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำเดือนสิงหาคม ของวันพุธที่ตลาด Comex ของนิวยอร์ก ราคาปิดตัวลงที่ 3.70 ดอลลาร์หรือ 0.2% ที่ 1,817.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์หลังจากที่ได้รับผลกระทบอีกครั้งจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยปิดตัวลงใกล้เคียงกับวันอังคารที่ลดลง 3.60 ดอลลาร์

อย่างไรก็ตาม ทองคำยังคงแข็งแกร่งภายใต้แรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเคลื่อนไหวภายในกรอบ 20 ดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ปิดราคาในวันที่ 17 มิถุนายน ถือว่าเป็นการพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งโดยธรรมชาติของทองคำ

สำหรับเทรดเดอร์ที่หาจังหวะย่อตัวของทองคำเพื่อเข้าซื้อในระยะสั้นนั้น จะเห็นได้ว่าทองคำในสัปดาห์ที่แล้วนั้นได้ดิ้นรนเพื่อให้ทะลุแนวต้านที่ 1,850 ดอลลาร์ และมีสัญญาณที่จะวกกลับมาที่ระดับ 1,700 ดอลลาร์

เอ็ด โมย่า นักวิเคราะห์ตลาดจากแพลตฟอร์มการซื้อขายออนไลน์ OANDA กล่าวว่า "ทองคำยังคงติดอยู่ในช่วงกรอบการซื้อขายที่กว้าง แต่การร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,800 ดอลลาร์ดูเหมือนจะมีโอกาสน้อยลงเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่ถึงจุดสูงสุดอาจเกิดขึ้น"

แต่ เจฟฟรีย์ ฮัลเลย์ เพื่อนร่วมงานของ โมย่า ซึ่งดูแลการวิจัยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ OANDA มีทัศนคติต่อทองคำที่ต่างออกไป

“ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ถูกลืมเลือน” ฮัลเลย์ให้ความเห็น “การร่วงลงรายวันแสดงให้เห็นว่าความเสี่ยงด้านลบกำลังเพิ่มขึ้นสำหรับราคาทองคำ แม้ว่าจะยังขาดโมเมนตัมที่จะทะลุออกจากช่วง 1,800 ถึง 1,900.00 ดอลลาร์ก็ตาม ตอนนี้เราควรรอจนกว่าเราจะเห็นการเคลื่อนตัวครั้งใหญ่ของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ”

คำถามที่ว่าทองคำจะตอบสนองต่ออัตราเงินเฟ้ออย่างไรยังคงเป็นปริศนาสำหรับนักลงทุน นับตั้งแต่ที่ราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 2,100 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม 2020 จากนั้นทรุดตัวลงสู่ระดับ 1,600 ดอลลาร์ ณ จุดหนึ่งก่อนจะกลับคืนสู่ระดับ 2,000 ดอลลาร์เมื่อต้นปีนี้ แม้จะเป็นเวลาสั้น ๆ แต่ก็เป็นที่กล่าวขานกันมากว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แต่ความสัมพันธ์ของทองคำกับแรงกดดันด้านราคาแทบจะไม่คงที่ในช่วงตลอดสองปีที่ผ่านมา

อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมาในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศถูกคุกคามอย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลล่าสุด จากกระทรวงพาณิชย์ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐฯ หดตัว 1.6% ในไตรมาสแรกเทียบกับการเติบโต 6.9% ในไตรมาสที่สี่ของปีที่แล้ว มีการเผยแพร่ตัวเลข GDP สามครั้งสำหรับแต่ละไตรมาส สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับไตรมาสแรกคือการประมาณการในสองครั้งล่าสุดที่มีจุดเปอร์เซ็นต์ต่ำกว่าเมื่อก่อน

การอ่านค่า GDP ตอกย้ำความคาดหวังของตลาดว่าสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ด้วยตัวเลขการหดตัว 1.6% ในไตรมาสแรก ซึ่งในทางเทคนิคศรษฐกิจกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หากไม่กลับมาเติบโตในเชิงบวกภายในสิ้นไตรมาสที่สอง ซึ่งจะสิ้นสุดในวันพฤหัสบดีนี้

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในฟอรัมของธนาคารกลางยุโรปที่ถ่ายทอดสดจากโปรตุเกสว่าเฟดกำลังวิ่งสวนทางกับเวลาเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ ธนาคารกลางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ แม้ว่าจะไม่มีการรับประกันว่าจะเศรษฐกิจจะบอบช้ำจากการกระทำนี้มากแค่ไหน พาวเวลล์กล่าว

“ถามว่า มีความเสี่ยงที่เราจะไปไกลเกินไป [ด้วยการขึ้นอัตรา] หรือไม่ ” พาวเวลล์กล่าต่อว่า “แน่นอนว่ามีความเสี่ยงแต่ความผิดพลาดที่ใหญ่กว่าก็มี  พูดอีกนัยก็คือ ความล้มเหลวในการฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคาผู้บริโภค”

นักเศรษฐศาสตร์หลายคนกล่าวว่าเฟดคง "อัตราดอกเบี้ยไว้ต่ำเกินไปและนานเกินไป" ตั้งแต่ปีที่แล้วจากการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระหว่าง 0 ถึง 0.25% เป็นเวลาสองปีในช่วงการระบาดใหญ่ และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ในเดือนมีนาคมเท่านั้น นับตั้งแต่นั้นมาก็ทำให้ อัตราดอกเบี้ย อยู่ระหว่าง 1.5% ถึง 1.75% ธนาคารกลางกล่าวว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ สูงสุดในรอบ 40 ปี ที่ 8% ต่อปี กลับสู่เป้าหมายที่ 2% ต่อปี

โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นไม่เป็นผลดีสำหรับทองคำ

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย