รัฐบาลของประเทศอินโดนีเซียได้ตัดสินใจที่จะทำการเก็บภาษีผลกำไรที่ได้จากเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ประมาณ 0.1 % โดยข้อบังคับนี้จะเริ่มใช้ในเดือนพฤษภาคมของปีนี้ นอกจากนั้นแล้วยังมีเรื่องของการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ VAT ในส่วนของการซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ในแต่ละครั้งด้วย
อินโดนีเซียเดินหน้าเก็บภาษีผลกำไรคริปโต
เรื่องนี้มาจากความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาษีของอินโดนีเซียกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการที่จะทำการเก็บภาษีจากการลงทุนในคริปโตและ VAT ทางด้าน Hestu Yoga Saksama ผู้อำนวยการควบคุมกำกับการเสียภาษีในกระทรวงการคลังได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว CNN ของประเทศอินโดนีเซียว่า ข่าวที่ออกมาเป็นความจริงที่จะมีการเก็บภาษีคริปโตเคอร์เรนซี่ประมาณ 0.1 %
นอกจากนั้นแล้วเขากล่าวว่า จะเริ่มมีการเก็บภาษีอย่างจริงจังตรงส่วนนี้ในช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม ที่จะมาถึงนี้ สอดคล้องกับรัฐบาลของประเทศอินโดนีเซียที่ได้ให้เหตุผลว่า การเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่นั้น มาจากการที่ทางธนาคารกลางของอินโดนีเซียกับกระทรวงพาณิชย์เริ่มเล็งเห็นแล้วว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ถูกใช้เพื่อการชำระเงินเพียงอย่างเดียว
เปรียบเหมือนสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดหนึ่ง
Hestu Yoga Saksama กล่าวว่า สินทรัพย์คริปโตถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ภาษีมูลค่าเพิ่ม เนื่องจากเปรียบเสมือนกับสินค้าโภคภัณฑ์ชนิดนี้ที่ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ให้คำนิยาม ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นสกุลเงินแต่อย่างใด จึงเป็นที่มาของการเก็บภาษีตรงส่วนนี้
ในอนาคตคาดว่าการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มของสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซี่จะมีการเก็บอย่างน้อย 11 % เช่นเดียวกับการเก็บภาษีสินค้าและบริการของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งการเก็บภาษีผลกำไรจากคริปโต 0.1 % มาจากบรรทัดฐานเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซียที่มีการเก็บในอัตราเดียวกัน ต่างกับอินเดียที่เริ่มมีการเก็บภาษีผลกำไรจากคริปโตมากถึง 30 %