ดอลลาร์สหรัฐฯ จะฟื้นตัวหลังจากร่วงลงล่าสุด

นักยุทธศาสตร์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศคาดการณ์ว่าดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าจะฟื้นตัวจากการขาดทุนล่าสุดในอีกสามเดือนข้างหน้า การคาดการณ์นี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อที่ว่าตลาดการเงินอาจประเมินจํานวนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีนี้สูงเกินไป

แม้จะเพิ่มขึ้น 5% ในช่วงต้นปี แต่ดอลลาร์ก็ร่วงลงอย่างมากเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ซบเซาและการคาดการณ์ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดหลายครั้งตั้งแต่เดือนกันยายน

การเปลี่ยนแปลงของความเชื่อมั่นของตลาดได้รับอิทธิพลเป็นพิเศษจากข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนําไปสู่การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 120 จุดพื้นฐานจากการประชุมเฟดที่เหลือในปี 2021 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 50 จุดพื้นฐานที่คาดการณ์ไว้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ธนาคารรายใหญ่หลายแห่ง รวมถึงธนาคารที่มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงกับเฟด ได้ปรับการคาดการณ์เพื่อคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้กําหนดนโยบายได้โต้แย้งแนวคิดที่ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยเมื่อเร็ว ๆ นี้เป็นสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กําลังจะเกิดขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอาจต้องลดการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก

ในการสํารวจความคิดเห็นรายเดือนของ Reuters ซึ่งดําเนินการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมถึง 6 สิงหาคม ท่ามกลางความผันผวนของตลาด นักยุทธศาสตร์ FX คาดการณ์ว่าเงินยูโรซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 1.10 ดอลลาร์ จะลดลงประมาณ 1.4% เป็น 1.08 ดอลลาร์ภายในสิ้นเดือนตุลาคม พวกเขาคาดว่าเงินยูโรจะกลับสู่ระดับปัจจุบันในหกเดือน จากนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.11 ดอลลาร์ในหนึ่งปี

หัวหน้าฝ่าย FX ระดับโลกของ HSBC กล่าวว่า "ข้อโต้แย้งด้านค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งของเราได้รับผลกระทบอย่างมากในแง่ของความเชื่อมั่น แต่ความแข็งแกร่งของมันจบลงจริงหรือ? นั่นไม่ใช่การเรียกร้องของเรา" เขากล่าวต่อ "ตัวบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของเราไม่ได้กะพริบเป็นสีแดง และแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสูญเสียโมเมนตัม แต่ก็มักจะเป็นข่าวร้ายสําหรับเศรษฐกิจอื่นๆ ดอลลาร์ทําได้ดีกว่าในสภาพแวดล้อมนั้น"

เงินเยนญี่ปุ่นซึ่งแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากการตัดสินใจของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยข้ามคืนเป็น 0.25% ในวันที่ 31 กรกฎาคม และการปรับลดการซื้อสินทรัพย์ในภายหลัง แตะระดับสูงสุดในรอบเจ็ดเดือนที่ 141.7/$ ในวันที่ 5 สิงหาคม คาดว่าจะรักษากําไรล่าสุดไว้ โดยซื้อขายที่ 144/$ ในหนึ่งปี ตามการสํารวจ

นักวิเคราะห์ FX บางคนเชื่อว่าการแข็งค่าของเงินเยนส่วนใหญ่เกิดจากการคลี่คลายการซื้อขาย ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อดัชนีหุ้น Nikkei ทําให้ดัชนีหุ้น Nikkei ลดลงมากกว่า 12% ในวันจันทร์ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นกว่า 10% ในวันอังคาร นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดจาก Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ระบุว่านักเก็งกําไรได้เพิ่มสถานะซื้อสุทธิในดอลลาร์สหรัฐฯ เล็กน้อยก่อนที่ตลาดจะผันผวนล่าสุด

ในการสํารวจความคิดเห็นของ Reuters ก่อนหน้านี้ ผู้พยากรณ์คาดการณ์ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง แต่ตอนนี้ความคิดเห็นถูกแบ่งแยก จากนักวิเคราะห์ 62 คน ส่วนใหญ่เล็กน้อยจาก 32 คนเชื่อว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ 30 คนคาดว่าจะอ่อนค่าลง

นักยุทธศาสตร์ FX ของ Bank of America ให้ความเห็นว่า "เมื่อพิจารณาจากการพัฒนาล่าสุดสักครู่ เรามักจะอยู่ในค่าย Soft Landing และคิดว่าเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวเข้ากับเศรษฐกิจอื่นๆ ของโลก เราจะได้เห็นผลตอบแทนที่ดีกว่าของดอลลาร์ และที่สําคัญกว่านั้น การประเมินมูลค่าที่สูงเกินไป จะเริ่มกลับมาเป็นปกติเล็กน้อยในอนาคต"

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน