โดย Ambar Warrick
Investing.com – สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปีในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนรอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงท้ายของวัน
เปโซฟิลิปปินส์ เป็นหนึ่งในกลุ่มสกุลเงินที่มีผลงานแย่ที่สุด โดยลดลง 0.6% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ ริงกิตมาเลเซีย ลดลง 0.2% สู่ระดับที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 25 ปี
ค่าเงิน เยน อยู่ต่ำกว่าระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี ขณะที่ค่าเงิน รูปีอินเดีย ทะลุระดับ 80 ต่อดอลลาร์ในช่วงสั้น ๆ เข้าใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล และเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นเนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้น อัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 75 จุด เมื่อสิ้นสุดการประชุมทั้งสองวันในช่วงบ่ายวันนี้ ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงเกินคาดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และยังพบว่าเทรดเดอร์เริ่มกำหนดราคาในความเป็นไปได้เพียงเล็กน้อยที่เฟดอาจจะปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยที่ 100 จุดพื้นฐาน
ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ทั้งคู่ซื้อขายต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีเพียงเล็กน้อย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่คาดการณ์ว่าจะสิ้นสุดปีที่ 4% ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าที่เคยเห็นในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008
ค่าเงินเอเชียร่วงลงอย่างรวดเร็วในปีนี้ ผลจากการที่เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง ทำให้ช่องว่างระหว่างหนี้ที่มีความเสี่ยงและหนี้มีความเสี่ยงต่ำแคบลง ความกลัวที่เพิ่มขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น ได้ส่งผลให้ความต้องการสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงสูงลดลง
นักลงทุนจะจับตาดูคำแนะนำจากเฟดเกี่ยวกับแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต เช่นเดียวกับแนวโน้มของธนาคารกลางเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ เพื่อวัดว่าตลาดในภูมิภาคจะต้องเผชิญกับแรงกดดันมากน้อยเพียงใดในช่วงที่เหลือของปี เฟดได้ส่งสัญญาณว่าตั้งใจที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะแสดงสัญญาณชัดเจนว่ากำลังลดลงกลับไปอยู่ในช่วงเป้าหมาย
หยวนจีน ลดลง 0.4% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี การสูญเสียค่าเงินครั้งใหม่ได้รับแรงกระตุ้นจากกลุ่มอุตสาหกรรมยุโรปที่เตือนถึงความเป็นไปได้ของจีนในฐานะจุดหมายปลายทางการลงทุนท่ามกลางการหยุดชะงักอย่างต่อเนื่องจากการล็อกดาวน์ที่เชื่อมโยงกับโควิด
หยวนเป็นหนึ่งในสกุลเงินเอเชียที่ทำผลงานแย่ที่สุดในปีนี้ โดยส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากจีนที่ยังยืนกรานใช้นโยบายปลอดโควิดต่อไป ซึ่งทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต้องหยุดชะงัก